ธอส. 24 ก.ย. – ธอส.ยกระดับบริการดิจิทัล ด้วย G H Bank New Normal Services ผ่าน 6 บริการใหม่บน App: GHB ALL พร้อมขยายมาตรการช่วยลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึง 31 ม.ค. 64 เตรียมปล่อยกู้ สินเชื่อ Two-GEN ผ่อนนานถึง 70 ปี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 67 ปีของ ธอส. จึงเดินหน้านโยบาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” หลังจากทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Two-GEN หรือผลิตภัณฑ์ให้เลือกผ่อนชำระได้ 2 generation หรือยาวนานสูงสุดถึง 70 ปี เพื่อให้มีบ้านเป็นของตนเองง่ายขึ้น โดยพิจารณาวงเงินให้กู้จากรายได้ของบิดา-มารดา และนำอายุของบุตรที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมาเป็นผู้กู้ร่วม ทำให้ภาระเงินงวดรายเดือนลดลง เมื่อผ่อนชำระได้นานขึ้น จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อมากขึ้นเช่นกัน อาทิ กรณีวงเงินกู้ 1 ล้านบาท หากผ่อนชำระ 40 ปี เงินงวด ประมาณ 5,000 บาท/เดือน หากผ่อนได้นานสูงสุดถึง 70 ปี จำนวนเงินผ่อนชำระ 2,500-3,000 บาท/เดือน
ในอนาคตหากผู้กู้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือบุตรที่เป็นผู้กู้ร่วมมีรายได้เข้ามาเพิ่มจากการประกอบอาชีพ สามารถผ่อนชำระเพิ่มมากขึ้น จากเงินงวดที่กำหนดได้ ทำให้สามารถปิดบัญชีเงินกู้ได้หมดก่อนระยะเวลา 70 ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เลือกจำนวนปีที่ต้องการผ่อนชำระ อาทิ 15 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้สุทธิของผู้กู้ เพราะได้ปิดบัญชีเร็วขึ้น
ขณะนี้ ธอส. ขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ในการออกสินเชื่อ Two-GEN เพื่อนำเสนอให้บอร์ด ธอส.พิจารณา รวมถึงกระทรวงการคลัง และ ธปท. พิจารณาความเหมาะสม ธอส. เตรียมวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ด้วยการออกพันธบัตรสลากออมทรัพย์ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อายุ 2-3 ปี หน่วยละ 5,000 บาท มีรางวัลเลขท้าย 2-3 ตัว ให้ลุ้นรางวัลเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้
เพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่ลูกค้าของธนาคารจากปัญหาโควิด-19 ธอส. เตรียมช่วยเหลือ ลูกค้าครอบคลุมทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย, พักชำระเงินต้น หรือ ลดอัตราดอกเบี้ย ผ่าน 10 มาตรการของธนาคาร หลังจากมีลูกค้าเข้ามาตรการทั้งสิ้น 511,110 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 430,439 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเข้ามาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน จำนวน 236,531บัญชี วงเงินสินเชื่อ 179,843 ล้านบาท ลูกค้ากลุ่มนี้ได้ทยอยครบกำหนดระยะเวลาการใช้มาตรการที่ 5 แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม 2563 โดยสามารถกลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติ 91,796 บัญชี เงินต้น 65,000 ล้านบาท
จากปัญหาไวรัสโควิด-19 ยังแพร่ระบาด ที่ประชุมคณะกรรมการ ธอส.เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 มีมติขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 และ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ระยะที่ 2 เฉพาะลูกค้าเดิมยังต้องช่วยเหลือ เปิดให้ลูกค้าเลือกแจ้งความประสงค์จำนวน 3 มาตรการ เพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือจากเดิมที่จะสิ้นสุดการช่วยเหลือในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 จะขยายระยะเวลาสิ้นสุดไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้น 3 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับผู้ที่เลือกเข้ามาตรการที่ 1 ได้ต้องเป็นลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และผู้ที่ยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” หรืออยู่ระหว่างใช้ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทยร่วมสร้างชาติ ในมาตรการที่ 1, มาตรการที่ 3 และมาตรการที่ 8”
มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้น 6 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 3.9% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่เลือกเข้ามาตรการที่ 3 ได้ต้องมีสถานะบัญชีปกติ และยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” มาตรการที่ 8 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่เลือกเข้ามาตรการที่ 8 ได้ต้องยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” หรืออยู่ระหว่างใช้ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทยร่วมสร้างชาติ มาตรการที่ 8”
ลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอเลือกใช้มาตรการขยายระยะเวลาความช่วยเหลือได้ผ่านทาง Application : GHB ALL ระหว่างวันที่ 1-29 ตุลาคม 2563 พร้อมแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันว่ายังมีผลกระทบทางรายได้จริงให้ธนาคารพิจารณา อาทิ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย และ Statement เป็นต้น
ธอส.ยังได้ยกระดับให้บริการดิจิทัล รองรับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ สอดคล้องกับวิถีชีวิตปกติใหม่ ธอส. จึงจัดทำโครงการ “G H Bank New Normal Services” (Phase 1) ด้วยการพัฒนาฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติม ทั้งทางด้านการเงินและสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้แบบง่าย ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลด้วย Mobile Application : GHB ALL ขณะนี้ได้มี ลูกค้าสมัครใช้ App: GHB ALL และยังใช้งาน 710,318 บัญชี ทำการโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL จำนวน 590,769 รายการ เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 62 ที่มีการทำธุรกรรม 375,981 รายการ หรือเพิ่มขึ้นถึง 57.13%
สำหรับฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติมในเฟส 1 ประกอบด้วย
1.ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ให้บริการได้ทั้งการซื้อสลากครั้งแรกหลังเปิดบัญชีสลากที่สาขา หรือลูกค้าเดิมที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม หลังจากเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2563 มีลูกค้าซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ หน่วยละ 50,000 บาท ผ่าน GHB ALL จำนวนกว่า 5,500 หน่วย ล่าสุด ธอส. ได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสลากผ่าน App: GHB ALL ในวันที่ 24 กันยายน 2563 รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.1% ต่อปี (จากปกติอัตราดอกเบี้ย 0.90% ต่อปี) ภายใต้กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท และการเปิดรับซื้อสลาก ธอส. ชุดต่อไปจะเปิดให้ลูกค้าซื้อผ่าน GHB ALL ต่อไป
- สำหรับลูกค้าต้องการนำข้อมูลบัญชีประเภทออมทรัพย์ Statement เพื่อใช้เป็นหลักฐานการอนุมัติธุรกรรมต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนดแล้ว ระบบจะส่ง Statement บัญชีเงินฝากตามที่ระบุไปที่ E-mail ของลูกค้า
- การจองคิวใช้บริการล่วงหน้า เพื่อเลือกสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องการใช้บริการ ซึ่งระบบจะแสดงรายชื่อสาขาที่เรียงลำดับจากระยะทางที่ใกล้กับจุดที่ลูกค้าอยู่มากที่สุด สามารถเลือกบริการประเภทที่ต้องการพร้อมระบุวันและเวลาที่ต้องการนัดหมาย หลังจากกดยืนยันแล้วสามารถไปรอรับบริการที่สาขาในวันเวลาที่นัดหมายได้ทันที
- การรับใบเสร็จชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนกระดาษ และจัดส่งทางไปรษณีย์ จะมีข้อมูลสำคัญเช่นเดียวกับใบเสร็จแบบกระดาษ อาทิ ยอดที่ชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และเงินต้นคงเหลือ
- ชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA เพียงเลือกบัญชีที่ต้องการชำระพร้อมด้วยรหัสทรัพย์ NPA เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยและกดยืนยันแล้ว ธนาคารจะส่งใบเสร็จ ยืนยันชำระเงินให้กับลูกค้าต่อไป
- การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร/การติดต่อกับธนาคารโดยไม่ต้องเดินทางไปแจ้งที่สาขา ลูกค้าเลือกเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ และ E-Mail เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อที่สะดวกรวดเร็วในปัจจุบัน
“การพัฒนาโครงการ G H Bank New Normal Services หวังรองรับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ใน Phase 2 เตรียมขยายบริการ เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ แจ้งความประสงค์กู้เพิ่ม ตรวจสอบข้อมูลเครดิต รับเงินของขวัญปีใหม่ของธนาคาร (Cash Back) แจ้งขอหนังสือรับรองเพื่อเบิกค่าเช่าบ้านหรือขอหนังสือรับรองตามยอดที่เบิกได้ และนัดวันรับโฉนด เป็นต้น คาดเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2563 ตั้งเป้าหมาย สิ้นปี 2563 มีจำนวนลูกค้าโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 756,300 รายการ หรือเพิ่มขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ จากสิ้นปี 2562” นายฉัตรชัยกล่าว . – สำนักข่าวไทย