กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่) เมื่อวานที่ผ่านมา โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน มี 4 หน่วยงานกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และสำนักงบประมาณ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อกระทรวงคมนาคม ได้มีความเห็นร่วมกันและได้ข้อยุติแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ ให้มีความชัดเจน และสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมสรุปและเสนอคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานวันที่ 14 กันยายน 2563
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) โดยมีนายอนุทิน เป็นประธานนั้น ได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่งตั้งนายชัยวัฒน์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการ เพื่อไปจัดทำแผนการบริหารหนี้ให้มีความชัดเจนว่าจะบริหารอย่างไร รวมถึงอธิบายรายละเอียดเรื่องการดำเนินงานฟื้นฟูที่จะไม่ให้เกิดภาระหนี้ในอนาคต พร้อมกันนี้จะต้องจัดทำรายละเอียดอย่างรอบคอบสามารถตอบคำถามบางประเด็นของแผนฟื้นฟูฯ เช่น การแก้ไขปัญหาการขาดทุน ขสมก.อย่างยั่งยืน โดยจะมี EBITDA เป็นบวกในปี 2572 รวมถึงการทำผลกำไรจากการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงราคา 30 บาท/คน/วัน (ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) ด้วย
ทั้งนี้ ข้อสรุปของการประชุมเมื่อวานที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสังเกต 3-4 ข้อ เพื่อให้ ขสมก.กลับไปจัดทำรายละเอียดก่อนนำเสนอที่ประชุมวันที่ 14 กันยายนนี้ ประกอบด้วย ราคาจ้างรถร่วมเอกชนเข้ามาร่วมเดินรถตามแผนฟื้นฟูใหม่ 54 เส้นทาง ซึ่งมีการนำข้อมูลราคาว่าจ้างจากหน่วยงานกลางเข้ามาชี้แจงให้ที่ประชุมทราบ อย่างไรก็ตาม ประชุมขอให้ ขสมก.กลับไปนำข้อมูลด้านวิชาการจากหน่วยงานอื่น 1-2 หน่วยงาน เข้ามาประกอบเป็นข้อมูลรวม เพื่อให้ทราบราคาว่าจ้างเฉลี่ยประกอบการพิจารณาและตัดสินใจของที่ประชุม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริหารพลังงานไฟฟ้า หรือการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถพลังงานไฟฟ้า หรืออีวี ซึ่งมีความแตกต่างจากรถที่ใช้น้ำมันทั่วไป เนื่องจากรถเหล่านี้จะต้องหมุนเวียนเข้าอู่ที่มีอุปกรณ์ชาร์จและต้องใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอย่างเหมาะสม จึงต้องมีการปรับบริหารเวลาการเดินรถให้สอดคล้องกับการจัดการพลังงาน ซึ่งที่ประชุมขอให้ ขสมก.เตรียมข้อมูลแจกแจงรายละเอียดด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องของเงินภาระเกี่ยวกับการบริการเดินรถด้านสังคม หรือ PSO จากปัจจุบันหากแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ ขสมก.ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีระยะเวลาดำเนินการไปจนถึงปี 2572 ซึ่งผลประกอบการของ ขสมก.จะกลับมาเป็นบวก โดยช่วงเวลาดังกล่าวที่ประชุมต้องการทราบถึงตัวเลข PSO ที่ชัดเจนแต่ละปี เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณที่ภาครัฐยังจำเป็นต้องอุดหนุน ขสมก . แต่ละปีเฉพาะช่วงเวลาดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในส่วนสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแผนฟื้นฟูฉบับใหม่นั้น เช่น การจัดหารถเมล์พลังงานไฟฟ้า 2,511 คัน การเก็บค่าโดยสารกับเหมาจ่าย วันละ 30 บาท ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวและหากที่ประชุมที่มีนายอนุทิน เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ฉบับใหม่ ในวันที่ 14 กันยายนนี้ กระทรวงคมนาคมก็เตรียมนำแผนฟื้นฟูดังกล่าวเข้าขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกันยายนนี้ ตามที่นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่จะเกษียณอายุราชการภายในเดือนกันยายนตั้งใจไว้จะทำโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จในระหว่างที่ยังปฏิบัติหน้าที่.-สำนักข่าวไทย