กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตร เปิดแอปพลิเคชั่นแนะนำแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการทำเกษตร และจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพ โดยจัดรูปแบบการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ป้องกันโควิด-19
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้จัดทำแอปพลิเคชั่น “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” ซึ่งรวบรวมปฏิทินการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยรวบรวมกิจกรรมที่น่าสนใจแต่ละเดือน โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปหาข้อมูลของแต่ละภาคว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใดบ้าง เมื่อเลือกสถานที่ท่องเที่ยวถูกใจแล้วสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียด โดยจะมีข้อมูลสถานที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ จุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยว ให้ข้อมูลความเป็นมา กิจกรรมที่สามารถทำได้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น มีบ้านพัก ห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ ที่จอดรถ เป็นต้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจชวนคนไทยเที่ยวเมืองไทย ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด- 19 ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับผู้ชื่นชอบการบริโภคผลไม้ กรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำโครงการ “ชวนคนไทย เที่ยวสวนผลไม้ไทย” ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้ของภาคใต้ สถานที่ที่น่าสนใจ เช่น สวนสละลุงถัน จ.พัทลุง สวนทวีทรัพย์ จ.ชุมพร บ้านในวงโฮมสเตย์ จ. ระนอง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผลผลิตมังคุด จ.นครศรีธรรมราช วิสาหกิจชุมชนคลองแดนพัฒนา จ. สงขลา วิสาหกิจชุมชนผลิตและแปรรูปสละอาทิตย์ จ. สุราษฎร์ธานี
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวแนะนำภาคต่าง ๆ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่น อ.สามพราน จ. นครปฐม เที่ยวสวนส้มโอคุณรัตนา ศูนย์การเรียนรู้ปลูกพืชระบบอินทรีย์ โดยเฉพาะข้าวไรซ์เบอร์รี่ รวมทั้งเที่ยวชมวิถีชุมชน วิสาหกิจชุมชนล่องเรือชมสวนเลียบคลองมหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยนักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถอีแต๋นเก็บข้าวโพดสดจากไร่ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของเกษตรกรรุ่นใหม่สามารถเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีโซล่าเซลล์มาประยุกต์ใช้ทำการเกษตร ใช้พื้นที่จำกัดทำสวนผักคนเมือง หาวิธีลดต้นทุน พร้อมให้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด คือ เรส-คิว ฟาร์ม เขตคลองสาววา กรุงเทพฯ ผู้ชื่นชอบอาหารทะเลไปได้ที่วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจุด (บ่อหินฟาร์มสเตย์) อ. สิเกา จ. ตรัง ชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศเช่น บ่อน้ำเค็มร้อนกลางทะเล เรียนรู้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง และเลือกซื้อสินค้าแปรรูปอาหารทะเล
นายเข้มแข็ง กล่าวต่อว่า แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรภาคเหนือที่แนะนำ คือ บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ. สุโขทัย แวะทานข้าวเปิ๊บ อาหารพื้นเมืองชื่อ เรียนรู้ทำผ้าหมักโคลน ชมสาธิตการทำตุ๊กตาบาโหน มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงกบในกระชัง (ท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านจ่าก้อง) อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จิบน้ำไผ่ในส่วนไผ่ นั่งรถไถเที่ยวชุมชน ส่วน จ.สระบุรี คือ วิสาหกิจชุมชนหนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก มี 4 จุด คือ ฟาร์มสายทอง ชิมมัลเบอร์รี่ แวะสวนผักครูสรรเสริญ แวะทำและชิมสลัดโรล ไร่องุ่นภูนวพันธ์ ชมแปลงองุ่นปลอดสาร และสวนบิ๊กเต้ซึ่งเป็นสวนเบญจมาศใหญ่ที่สุดในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร อ.วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา สามารถพักค้างและร่วมกิจกรรม Cooking Class แวะชมพระอาทิตย์ตกดินริมอ่างเก็บน้ำ ค้างคืนที่โฮมสเตย์หมู่บ้านไทยพัฒนา เที่ยวชมสกัดน้ำหอมจากดอกกุหลาบ ส่วนเส้นทางเขาแผงม้าสามารถเที่ยวแบบไป-กลับ แวะสวนมัลเบอรี่ สวนองุ่น เก็บไข่เป็ดพันธุ์กากีแคมป์เบลล์ และเส้นทางวังน้ำเขียว-อุดมทรัพย์ มีกิจกรรมเดินเล่นสะพานไม้ไผ่กลางทุ่งดอกไม้ สูดอากาศให้เต็มปอดโอบล้อมธรรมชาติ พักผ่อนที่โมสเตย์ในสวนเกษตรริมอ่างเก็บน้ำห้วยกระบอก ชมแปลงพุทรากางมุ้ง ชมแปลงปลูกฟิกส์ และแวะเก็บองุ่นที่อุดมทรัพย์วิลเลจฟาร์ม
“ผู้สนใจดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” ทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ เพื่อเลือกสถานที่ท่องเที่ยว ใกล้ที่ไหนเที่ยวที่นั่น ในแอปพลิเคชั่นมีข้อมูล เบอร์ติดต่อ และแผนที่เพื่อให้กำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวได้สะดวก โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจัดให้สถานที่ท่องเที่ยวปฏิบัติตามหลัก social distancing เช่น การตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยว สวมหน้ากากอนามัยทั้งผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยว เว้นระยะห่างระหว่างนักท่องเที่ยว พร้อมทำล้างมือ และมีจุดแสกน QR code ผ่านแอปพลิเคชั่น ไทยชนะด้วย” นายเข้มแข็ง กล่าว.-สำนักข่าวไทย