ทำเนียบฯ 26 ส.ค. – ครม.อนุมัติงบกลางเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการ 2,900 ล้านบาท รองรับรายย่อยใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการฯ ดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.6 หมื่นล้านบาท เข้างบกลาง
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติงบกลาง 2,900 ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการฯ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการ 13.45 ล้านคน ประกอบด้วย
1) ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม วงเงิน 300 บาทต่อเดือน เงื่อนไขจากร้านธงฟ้าฯ
2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงิน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
3) ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ วงเงิน 750 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับขึ้นรถ เช่น รถเมล์ ขสมก. , บขส. , รถไฟฟ้า และรถไฟ
4) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า วงเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขกรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
5) มาตรการบรรเท่าภาระค่าน้ำประปา วงเงินอุดหนุนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขกรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด และเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ จากเดิมจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กองทุนฯ มียอดเงินคงเหลือ 6,034 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2568 กองทุนฯ ได้รับจัดสรร 50,400 ล้านบาท ใช้จ่ายในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2568 เฉลี่ยเดือนละ 4,720 ล้านบาท
นางสาวศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.รับทราบความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท อนุมัติงบให้หน่วยงาน 49 หน่วยรับงบประมาณ รวม 8,431 รายการ วงเงินรวม 109,800 ล้านบาท ครม.เห็นชอบให้ดึงงบส่วนที่เหลือ 26,000 ล้านบาท เข้ามาอยู่ในงบกลางฉุกเฉิน ทำให้รัฐบาลมีงบกลางฉุกเฉินหรือจำเป็นในปัจจุบัน 96,556 ล้านบาท เพิ่มเป็น 122,556 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.27 ของวงเงินงบประมาณปี 68 รองรับการนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น.- 515- สำนักข่าวไทย