กรุงเทพ 23 ก.ค.– สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD จัดมหกรรมการค้าแห่งปี “Regional Trade Exponential Fest 2025” ปีที่ 2 ภายใต้ธีม “ขับเคลื่อนเอเชียสู่อนาคต” ปลุกพลังผู้ประกอบการไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก ผนึกกำลังผู้นำธุรกิจ – เทคโนโลยี – คอนเทนต์ – สตาร์ทอัพ จากอาเซียนและทั่วโลก สร้างเวทีเรียนรู้และเชื่อมเครือข่ายแห่งปี
นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา หรือ ITD กล่าวว่า โลกการค้ากำลังเขียนกติกาใหม่ ทุกวันนี้แค่มีสินค้าและความตั้งใจไม่พอ เราต้องมีวิสัยทัศน์ มีกลยุทธ์ มีเครือข่าย และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจชาติ ต้องรู้ให้ทันโลก เข้าใจให้ลึก และกล้าคิดนอกกรอบ ITD จึงตั้งใจจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจและความรู้จากตัวจริงของโลกธุรกิจ
นายสุภกิจ ยังกล่าวอีกว่า จากรายงานของธนาคารโลก การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 อาจลดต่ำลงเหลือเพียง 2.3% ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า ประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ต้องเร่งปรับตัวต่อมาตรการกีดกันทางการค้า และความผันผวนของระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs กำลังแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และแรงกดดันจากคำสั่งซื้อต่างประเทศที่ไม่แน่นอน แต่ท่ามกลางวิกฤต ยังมีโอกาสมหาศาล เพราะตลาดภูมิภาคกำลังเติบโต เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังสร้างเส้นทางใหม่ การท่องเที่ยวยั่งยืนกำลังกลายเป็นเทรนด์หลัก และพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่กล้าเรียนรู้และลงมือก่อน จะเป็นผู้คว้าโอกาสเหล่านี้ไว้ได้ก่อนใคร

มหกรรม Regional Trade Exponential Fest 2025 จึงไม่ใช่แค่งานสัมมนา แต่คือเวทีความรู้และโอกาสขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค โดยปีนี้รวบรวมวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำทางธุรกิจ และแพลตฟอร์มระดับโลกกว่า 20 องค์กรจากหลากหลายประเทศมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยี คอนเทนต์ สตาร์ทอัพ และแบรนด์ไทยที่โกอินเตอร์สำเร็จบนเวทีหลัก ผู้เข้าร่วมได้ฟังแนวคิดจากยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ที่มาเปิดเผยเคล็ดลับเบื้องหลัง “วัฒนธรรมองค์กรแห่งการเติบโต” ซึ่งเป็นหัวใจของการขยายกิจการในระดับโลก พร้อมด้วย Bolt แพลตฟอร์ม Ride Sharing จากยุโรป ที่กล้าออกจากเงาแบรนด์ใหญ่มาเติบโตในกว่า 45 ประเทศทั่วโลก และ Klook แพลตฟอร์มท่องเที่ยวจากฮ่องกง ที่พิสูจน์แล้วว่าการผสานเทคโนโลยีเข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้ ทำให้ธุรกิจสามารถครองใจตลาดได้ในเวลาอันสั้น
ในกลุ่มธุรกิจคอนเทนต์และความคิดสร้างสรรค์ มีการนำเสนอจาก IQIYIแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งจีน ที่มาเปิดมุมมองการเจาะตลาดต่างประเทศด้วยพลังของวัฒนธรรม, GDH559 สตูดิโอภาพยนตร์ไทยที่สามารถนำคอนเทนต์สู่ตลาดเอเชียและต่างประเทศอย่างประสบความสำเร็จ และ Yell เอเจนซี่โฆษณาไทยที่ใช้วัฒนธรรมไทยสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงหัวใจคนทั่วโลก อีกกลุ่มที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือธุรกิจที่เติบโตจากภูมิปัญญาและรากวัฒนธรรมไทย เช่น NaRaYaแบรนด์กระเป๋าผ้าที่มีจุดเริ่มต้นจากชุมชน จนกลายเป็นของฝากอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยว, Pipatchara แบรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นผลงานศิลป์ และ Coco Thumbแบรนด์น้ำมะพร้าวที่สามารถส่งออกมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพพรีเมียมกว่า 30 ล้านลูกไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ ITD ยังเปิดเวทีให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพอาเซียน ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นJago Coffee จากอินโดนีเซียที่พัฒนา “คาเฟ่เคลื่อนที่” บนรถเข็นไฟฟ้า พร้อมระบบสั่งผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที, Royo Panda จากฟิลิปปินส์ที่ส่งออกกระดาษทิชชู่ผ่านอีคอมเมิร์ซ และ Green Discovery Laos จาก สปป.ลาว ที่เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบยั่งยืน สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้าน ESG
นายสุภกิจ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว ธุรกิจต้องเปลี่ยนให้ทัน แต่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตาม ต้องเปลี่ยนอย่างมีกลยุทธ์ มีข้อมูล และมีเป้าหมาย งานนี้จะเป็นเวทีที่เชื่อมโยง ‘แรงบันดาลใจ’ กับ ‘แผนปฏิบัติจริง’ ให้ผู้ประกอบการทุกระดับได้เดินหน้าอย่างมั่นใจ และก้าวทันโลกเศรษฐกิจใหม่.-513-สำนักข่าวไทย