กรุงเทพฯ 19 พ.ค.– ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยเชิงเศรษฐศาสตร์เรื่อง “บุหรี่ไฟฟ้า” เสนอรัฐทบทวนมาตรการห้ามนำเข้าและจำหน่าย พร้อมใช้เครื่องมือทางภาษีและฐานข้อมูลผู้ใช้เป็นกลไกควบคุมหลักแทนการแบนแบบเบ็ดเสร็จ
รศ. อุ่นกัง แซ่ลิ้ม อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ ผู้วิจัยหลัก ระบุว่า จากการรวบรวมและวิเคราะห์งานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ พบว่า การห้ามโดยไม่มีช่องว่างให้กับสินค้าทดแทน ไม่สามารถป้องกันการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าได้จริง ขณะที่ความยืดหยุ่นของราคาบุหรี่ไฟฟ้าต่อความต้องการใช้อยู่ในระดับต่ำ (Inelastic) การจัดเก็บภาษีและการควบคุมช่องทางจำหน่ายจึงมีโอกาสได้ผลมากกว่าการแบน
งานวิจัยแบ่งประเด็นศึกษาเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. แนวทางการกำกับดูแลในปัจจุบัน แม้จะมีกฎหมายห้ามนำเข้า แต่ยังไม่มีระบบติดตาม ตรวจสอบ หรือประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ สินค้าหลายชนิดเล็ดลอดเข้ามาทางออนไลน์และกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มเยาวชน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งมีราคาถูก ใช้งานง่าย และเข้าถึงง่าย 2. ความรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม ยังไม่มีงานวิจัยเชิงระบาดวิทยาหรือสุขภาพประชากรในประเทศไทยที่ศึกษาผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ จำเป็นต้องมีการจัดทำฐานข้อมูลผู้ใช้ และส่งเสริมการเก็บข้อมูลต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ
- บทเรียนจากต่างประเทศ หลายประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุม เช่น อังกฤษ นิวซีแลนด์ ฟินแลนด์ และกลุ่มประเทศใน EU ใช้แนวทาง “การควบคุมภายใต้กฎเกณฑ์” (Policy Domain) โดยจัดเก็บภาษีเฉพาะ (Specific Tax) แยกตามระดับนิโคตินหรือปริมาณการใช้ ควบคู่กับระบบติดตามอายุผู้ซื้อและแหล่งจำหน่าย พร้อมใช้ข้อมูลวิจัยสุขภาพประกอบการประเมินผลกระทบ
รศ. อุ่นกังยังเสนอว่า หากรัฐไทยจะทบทวนมาตรการ ควรเริ่มจากการออกแบบระบบภาษีบุหรี่ไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น เช่น การจัดเก็บภาษีแบบเฉพาะ (ad valorem หรือ specific tax) ที่สะท้อนต้นทุนทางสาธารณสุข ควบคู่กับการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบติดตามผู้ใช้งานอย่างปลอดภัย
สำหรับการประมาณราคาทางเศรษฐศาสตร์ หากกำหนดภาษีบุหรี่ไฟฟ้าในอัตรา 10% ของราคาขายปลีก จะทำให้ราคาบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 6.87 – 10 บาทต่ออุปกรณ์หนึ่งชุด และหากเพิ่มเป็น 40% ราคาจะเพิ่มขึ้นถึง 12.08 – 15.55 บาท ซึ่งเป็นระดับที่ผู้วิจัยมองว่า สามารถใช้ชะลอพฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเยาวชนได้
ทั้งนี้ ข้อเสนอจากงานวิจัยถูกนำเสนอในเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ “ย้อนมอง 10 ปี นโยบายบุหรี่ไฟฟ้าไทยกับแผลในปัจจุบัน” ซึ่งจัดขึ้นภายในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากภาคนโยบายและภาคประชาชนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทไทย
การห้ามโดยไม่มีข้อมูลและระบบควบคุม อาจไม่ตอบโจทย์สาธารณสุขระยะยาว การออกแบบภาษีและระบบข้อมูลให้เหมาะสมต่างหากคือทางออกที่ยั่งยืน. -512-สำนักข่าวไทย