บขส.คาดวันนี้ผู้โดยสารหนาแน่น 1.3 แสนคน

กรุงเทพ 11 เม.ย.- “บขส.” เผยยอดประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์วานนี้ (10 เม.ย.) ไป-กลับกว่า 123,297 คน ส่วนวันนี้คาดผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น 130,000 คน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนหยุดยาว พร้อมจัดรถโดยสาร-รถเสริม บริการประชาชนสะดวก ปลอดภัย เพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง


นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (11 เม.ย.) บขส.คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 หนาแน่น เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลฯ โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 130,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 5,000 เที่ยว และได้จัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ประมาณ 1,000 คัน เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับข้อมูลการเดินรถเมื่อวานนี้ (10 เมษายน 2568) มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 77,759 คน เที่ยวกลับ จำนวน 45,538 คน รวมทั้งสิ้น 123,297 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 3,537 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 3,091 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 6,628 เที่ยว ซึ่ง บขส. สามารถบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง รถโดยสารเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เวลาประมาณ 23.00 น. และเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในเวลา 21.50 น.


นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋ว บขส. ล่วงหน้า เที่ยวปกติและเที่ยววิ่งเสริม เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ของการเดินทางในวันที่ 11 – 12 เมษายน 2568 ให้ไปขึ้นรถโดยสารที่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 ทั้งนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลามาขึ้นรถก่อนเวลารถออก และให้ตรวจสอบข้อมูลบนตั๋วโดยสาร โดยเฉพาะจุดขึ้นรถและหมายเลขชานชาลาขึ้นรถ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี บขส. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ดำเนินการตามมาตรการตรวจเข้มความพร้อมรถโดยสารต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัย ก่อนนำออกมาให้บริการ ส่วนพนักงานขับรถต้องพักผ่อนให้เพียงพอ มีการตรวจสารเสพติดและตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ปฏิบัติตามกฎจราจร ควบคุมความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะตามนโยบายกระทรวงคมนาคม.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี