SCB EIC ประเมินจีดีพี ปี 68 ต่ำกว่า 2% จับตาไทยเจรจา หลัง “ทรัมป์” ชะลอภาษี

กรุงเทพ 10 เม.ย. – SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยถูกกดดันหนัก จากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไทย 36% ของสหรัฐ กระทบส่งออกไทยไปสหรัฐ หดตัว 8.1 แสนล้านบาท ใน 5 ปี จับตาไทยเจรจาสหรัฐ หลังทรัมป์ ชะลอเก็บภาษี 36% ไป 90 วัน ชี้สหรัฐ-จีนตอบโต้การค้า กระทบไทย ประเมินจีดีพี ปี 68 ต่ำกว่า 2% แนะเอสเอ็มอีเร่งปรับตัว


ดร.ปุณยวัจน์ ศรีสิงห์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กล่าวถึง กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เป็นเวลา 90 วัน แต่ภาษีพื้นฐาน ที่เก็บเพิ่ม 10% ยังเก็บต่อไป ยกเว้นประเทศที่จีน ยังมีการตอบโต้กันไม่หยุด ล่าสุดประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 125% จากเดิม 104%

โดย SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยถูกกดดันจากภาษีรอบนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากไทยถูกเรียกเก็บภาษีสูงเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ดังนั้นจะกระทบสินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐรุนแรง เนื่องจากไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐสูง ส่งออกลดลง ขณะที่ทางอ้อมจะกระทบส่งออกไทยประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีเช่นกัน ดังนั้นประเทศเหล่านี้มีโอกาสที่จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้า ก็จะส่งผลให้นำเข้าจากไทยน้อยลง ขณะที่ไทยส่งออกไปจีนลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอลง ดังนั้นจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบได้การแข่งขันมากขึ้น


ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยพึ่งพาส่งออกไปสหรัฐฯ มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของการส่งออก ขณะที่ไทยนำเข้าจากจีนมาก คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของการนำเข้า ดังนั้น ในระยะข้างหน้า หากไทยเจรจาสหรัฐไม่ได้ หรือเจรจาได้น้อย จะกระทบเศรษฐกิจไทยแน่นอน ขณะที่ยังมีปัจจัยในประเทศ ทั้งนี้ ครัวเรือน ภาคธุรกิจเปราะบาง และการผลิตที่ยังฟื้นตัวช้า แม้ภาครัฐช่วยเหลือค่อนข้างมา แต่มีแนวโน้มจำกัดมากขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้นประเมินจีดีพี ปี 2568 มีโอกาสเติบโตต่ำกว่า 2% โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง อาจเติบโตได้ในระดับ 1 %

อย่างไรก็ตาม ช่วง 90 วัน ที่ทรัมป์มีการชะลอเก็บภาษี อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้อีก ยังประเมินได้ยาก นอกจากนี้ยังต้องติดตามจีนที่ถูกสหรัฐขึ้น เป็น 125% มองว่าเป็นประเด็นสำคัญที่จะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ดังนั้นไทยต้องเร่งรับมือผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ผ่านบทบาทเชิงรุกของภาครัฐ ทำควบคู่ไปกับการใช้กฎหมาย พร้อมระบุว่าสงครามการค้าเข้าใกล้ตัวเอสเอ็มอีมากขึ้น

ด้านนางสาวโชติกา ชุ่มมี ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิต ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กล่าวว่า ภาคธุรกิจจะถูกกระทบจากนโยบายภาษีศุลกาการตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งทางตรง ทางอ้อมเชิงบวกและลบ โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบสูง ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่พึ่งพาสหรัฐสูง และมีโอกาสสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่ง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก ยางพารา สินค้าประมง โดยเฉพาะกุ้ง เป็นต้น ขณะที่สินค้าขั้นกลางและขั้นปลาย ถูกกระทบจาก Global Slowdown หรือต้องเจอปัญหาสินค้าจีนทะลักเข้าไทยรุนแรงขึ้น


โดย SCB EIC ประเมินว่า Reciprocal Tariffs ที่ระดับ 36% จะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐ ลดลงสะสมราว 8.1 แสนล้านบาท เมื่อบังคับใช้ครบ 5 ปี อย่างไรก็ตาม หลังมีการชะลอการขึ้นภาษี ไป 90 วัน น่าจะมีส่งผลกระทบลดลง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถใช้กลยุทธ์ 4P ในการปรับตัวเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากสงครามกำแพงภาษีของทรัมป์ ซึ่งทั้ง 4p ควรทำทันที เพื่อให้มีแต้มต่อในสงครามกำแพงภาษีครั้งนี้เพิ่มขึ้น และใช้วิกฤตครั้งนี้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตของไทยให้มีความแข่งแกร่งมากขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว