ซีไอเอ็มบี ไทย คาด กนง. 26 ก.พ.ลดดอกเบี้ย

กรุงเทพฯ 20 ก.พ.- นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 2.00% ในรอบการประชุมที่จะถึงนี้ (26 ก.พ.)


นายอมรเทพ ส่วนกรณีที่หลายสำนักคาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ ซึ่งในความเป็นจริงก็น่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณใด ๆ จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีกทั้งยังมีการย้ำถึงการรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายหรือเก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น

อย่างไรก็ตาม มองว่า กนง. น่าจะทบทวนปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากการประชุมครั้งก่อน และจากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดการเงินในอนาคต จนน่าจะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบเดือนก.พ. นี้ อีกทั้งหากไม่ได้ปรับลดในรอบนี้ นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินส่วนใหญ่ก็มองว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมหน้าในเดือนเม.ย. อยู่แล้ว จึงมองว่าการปรับลดก่อนน่าจะสร้างความเชื่อมั่นและมีผลต่อเศรษฐกิจมากกว่า


ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่เห็นผลชัดเจนในช่วง 1-2 เดือน แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธปท. จะส่งผ่านถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในเวลาไม่นาน แต่กว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะสร้างแรงจูงใจให้คนมาลงทุนเพิ่มขึ้น เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการผลิตสินค้าและบริการ จนเกิดเงินหมุนเวียนผ่านการบริโภคที่เพิ่มขึ้น หรือส่งผ่านกลไกอัตราแลกเปลี่ยนและราคาสินค้าต่าง ๆ ยังต้องใช้เวลาราว 6-12 เดือน ซึ่งก็อาจเห็นผลทางเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงปลายไตรมาส-3-4 หรือในช่วงที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวมากขึ้น

ดังนั้น มองว่า อย่างน้อยก็พอป้องกันไม่ให้ไถลลงลึก หรือพอประคองการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้บ้าง เพราะหากรอนานเกินไป จนทุกอย่างสุกงอม มีความชัดเจน แม้จะดูเหมือนปลอดภัยในการดำเนินนโยบายการเงิน แต่ก็อาจทำให้ขาดโอกาสในการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำต่อเนื่องลากยาวได้

“สุดท้ายนโยบายการเงินไม่ใช่พระเอก แต่ต้องเป็นการประสานกับนโยบายการคลังที่ดูแลด้านความเหลื่อมล้ำและมาตรการอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ และยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้สูงขึ้นในระยะยาวอย่างยั่งยืน” นายอมรเทพ ระบุ *ความเสี่ยงขาลงที่มากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ได้แก่


  1. เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าคาด: หลัง GDP ไทยขยายตัวต่ำเพียง 2.5% ในปี 67 และมีความไม่แน่นอนด้านกำลังซื้อแม้มีมาตรการภาครัฐกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่ยังอ่อนแอลากยาว ประกอบกับแรงส่งจากกลุ่มภาคบริการที่ได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวเริ่มจำกัด เนื่องจากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้เทียบปีก่อนไม่ได้สูงมากเหมือนปีก่อนและใกล้เข้าสู่ระดับก่อนโควิด อีกทั้งการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่คาด
    นอกจากนี้ ด้านการก่อสร้างภาคเอกชนยังเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจ จากทั้งการออกโครงการใหม่ที่ยังลดลงและจากความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังมีต่อเนื่องจากปัญหาด้านเครดิต แม้ในช่วงแรกเศรษฐกิจไทยจะมีแรงส่งจากการท่องเที่ยวและการลงทุนภาครัฐ แต่ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจจะเริ่มมีมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี จากประเด็นสงครามการค้าที่จะกระทบภาคการผลิต และลามไปสู่ภาคการบริโภค
  2. เงินเฟ้อเสี่ยงไม่ถึงกรอบล่างที่ 1%: ทั้งจากกำลังซื้อคนในประเทศที่ยังอ่อนแอจนผู้ประกอบการไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นให้ผู้บริโภคได้ และจากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงจากความคลี่คลายด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ซึ่งจะช่วยทำให้ราคาสินค้ายังอยู่ในระดับต่ำ และไม่เข้ากรอบล่างของกรอบนโยบายการเงินที่ 1-3%
  3. กำลังซื้อครัวเรือนรายได้น้อยและ SMEs อ่อนแอ ห่วงลามไปกระทบธุรกิจขนาดใหญ่: เริ่มเห็นสินเชื่อที่หดตัวในธุรกิจขนาดเล็กและหลากหลายสินเชื่อภาคครัวเรือน โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์และเช่าซื้อ จนอาจกระทบสภาพคล่องของธุรกิจขนาดใหญ่ ธปท. อาจพิจารณาหามาตรการดูแลไม่ให้เกิดการลามจนกระทบภาคส่วนอื่นและสถาบันการเงินโดยรวม นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อน่าจะมีส่วนสนับสนุนให้หนี้ครัวเรือนปรับตัวลดลง ทั้งระดับเทียบ GDP และทั้งมูลค่าในรูปเงินบาท ซึ่งเป็นเรื่องดีในด้านเสถียรภาพตลาดการเงินในระยะยาว และธปท. น่าจะคลายความกังวลในประเด็นนี้ได้ในระดับหนึ่ง จนสามารถผ่อนคลายมาตรการทางการเงินได้มากขึ้น
  4. ป้องกันความเสี่ยงจากสงครามการค้า: สงครามการค้าน่าจะมีความชัดเจนและรุนแรงในช่วงครึ่งหลังของปี รวมทั้งมีการตอบโต้จากชาติที่สหรัฐตั้งกำแพงภาษี จนอาจทำให้การค้าโลกอ่อนแอลง จนกระทบภาคการผลิต การจ้างงาน การส่งออกและการบริโภคในประเทศ ซึ่งอาจต้องอาศัยมาตรการป้องกันผลกระทบ หรือลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากมาตรการที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
  5. พยุงค่าเงินบาทให้อ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ: ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐนับจากต้นปี แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าเทียบสกุลสำคัญๆ และสกุลอื่นในภูมิภาคเอเชีย จนทำให้เงินบาทดูจะแข็งค่าเทียบสกุลคู่ค้าอื่นจนทำให้ไทยเสียความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก ซึ่งหากจะใช้มาตรการทางการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง ก็พอจะช่วยลดความน่าสนใจในการลงทุนสกุลเงินบาท โดยเฉพาะในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งพอจะช่วยให้เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าเทียบสกุลอื่นได้บ้าง

นายอมรเทพ ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย น่าจะเป็นการพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวไปมากกว่านี้ หรือพยายามรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจเทียบไตรมาสต่อไตรมาสให้ทรงตัว ไม่ปรับลดลง ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้อาจขยายตัวต่ำในช่วงแรกแม้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องด้วยความเสี่ยงด้านเครดิตยังสูง จากเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวช้าและไม่กระจายตัวดีเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยังกดดันการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้เข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะต่อสินเชื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อ ขณะที่สินเชื่อกลุ่ม SMEs ยังคงหดตัวได้อยู่ในช่วงครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ คาดหวังมาตรการทางการคลัง ทั้งการก่อสร้าง การจ้างงาน และการลดค่าครองชีพต่าง ๆ มาช่วงพยุงกำลังซื้อในกลุ่มล่างนี้ เนื่องด้วยจะหวังพึ่งมาตรการทางการเงินอย่างเดียวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจคงไม่ได้ อีกทั้งอาจมีความเสี่ยงด้านกับดักสภาพคล่อง หรือการที่สินเชื่อไม่ขยายตัวแม้ลดดอกเบี้ยด้วยจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ จึงต้องมีการประสานของหลากหลายนโยบายเข้าด้วยกันเพื่อเร่งความเชื่อมั่น

ส่วนที่มีความกังวลว่าไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้หรือไม่นั้น นายอมรเทพ มองว่า ธปท.สามารถดำเนินนโยบายการเงินได้อย่างมีอิสระจากธนาคารกลางสำคัญ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ แม้อาจต้องพิจารณาผลกระทบด้านความผันผวนของทุนเคลื่อนย้ายบ้าง

ทั้งนี้ คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยรอบ 18-19 มีนาคม และอาจลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในรอบ 17-18 มิถุนายน และ 9-10 ธันวาคม สู่ระดับ 4.00% ในปีนี้

ส่วนกนง. น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 1.50% ในช่วงปลายปีนี้ โดยกนง.เหลือการประชุมอีก 5 นัด คือ
– วันที่ 30 เมษายน (คงเพื่อรอดูความชัดเจนและประสิทธิผลของการลดดอกเบี้ยที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์)
– วันที่ 25 มิถุนายน (ลดเหลือ 1.75% หลัง GDP 1Q25 ที่สภาพัฒน์ฯจะรายงานวันที่ 19 พ.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด)
– วันที่ 13 สิงหาคม (ลดเหลือ 1.50% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหลังสงครามการค้าชัดเจนว่าไทยได้รับผลกระทบผ่านการส่งออกที่โตต่ำลง)
– วันที่ 8 ตุลาคม (คง)
– วันที่ 17 ธันวาคม (คง) -511 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]