ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดกลยุทธ์ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและลงทุนปี 2567

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.-ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออม ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดมุมมองเชิงกลยุทธ์ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและการลงทุน ปี 2567


นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออม ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ซีไอเอ็มบี ไทย มุ่งมั่นที่จะเป็นประตูสำหรับพาลูกค้า wealth เข้าถึงผลิตภัณฑ์การจัดการความมั่งคั่งที่ดีที่สุดทั่วโลก ในแบบที่เหมาะกับความต้องการรายบุคคลและความเสี่ยงของลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายจะมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทุกคนไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ในฐานะพันธมิตรทางการเงินที่แท้จริงตลอดเส้นทางชีวิตของคุณลูกค้า

ฝ่ายวิจัยของธนาคารมองว่ามีโอกาสราวร้อยละ 65 ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวในลักษณะ Soft Landing ในปี 2567 จากการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของอัตราเงินเฟ้อ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และระดับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในกรอบเป้าหมายมีโอกาสที่จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ดังนั้นในปี 2567 จะเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางในประเทศต่างๆ เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำ และเริ่มมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย มูลค่าของตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศต่างมีความน่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นกู้คุณภาพดี รวมไปถึงการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทอื่น เช่น Private Credit ที่มีคุณภาพสูง และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือ Mortgage-backed securities เป็นต้น 


ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ คาดว่าจะถูกปรับลดลงไปที่ระดับร้อยละ 3.50 – 3.75 ในปี 2568 จากระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 5.25 – 5.50 ซึ่งเราเชื่อว่าลูกค้ามีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดี และพันธบัตรรัฐบาลของไทยในช่วงวัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงได้เช่นเดียวกัน หนึ่งในเสาหลักและเป็นข้อได้เปรียบของ Wealth Management ของธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย คือการให้บริการซื้อ-ขายพันธบัตรและหุ้นกู้ในตลาดรองที่ลูกค้าสามารถที่จะขายคืนตราสารหนี้ที่ลงทุน เพื่อที่จะรับรู้กำไรจากการลงทุนในตราสารหนี้จากการปรับตัวลดลงของอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงเป็นช่องทางการซื้อตราสารหนี้คุณภาพดีเข้ามาในพอร์ทการลงทุน ซึ่งทางธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย มีทีม Wealth Research and Advisory ที่คอยให้คำแนะนำการลงทุน รวมไปถึงวิเคราะห์และปรับพอร์ทการลงทุนให้สอดคล้องและตอบรับกับสภาวะตลาดและการลงุทนเพื่อสร้างผลตอบแทนตามความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยงของลูกค้า

ในฝั่งตราสารทุนก็เป็นโอกาสของนักลงทุน 

เนื่องจากในแต่ละตลาด หรืออุตสาหกรรมได้มีการรับรู้มุมมองเชิงลบต่อตลาดมากกว่าที่เราคาด ธนาคารจึงแนะนำให้นักลงทุนโดยทั่วไปให้ความสำคัญกับการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจและปัจจัยพื้นฐาน ทั้งในส่วนของคุณภาพของกำไร และความสามารถของทีมบริหาร โดยเรามองว่าการลงทุนเป็นการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวไม่ใช่เป็นเพียงการเก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งการพลาดจังหวะซื้อในช่วงสั้นๆ ไม่สามารถที่จะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อผลตอบแทนจากการลงทุนทุนในระยะยาวได้ 


ทั้งนี้ ซีไอเอ็มบีไทย มีทางเลือกลงทุนระยะยาวให้ลูกค้ามากมายทั้งกองทุนรวม หุ้นกู้ทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง หรือ structured product อาทิ Equity Linked Notes ที่สามารถออกแบบเพื่อที่จะสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการชองลูกค้าได้ ตลอดจนการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์กลุ่มประกัน ทั้ง Unit-Linked และ Universal Life ซึ่งช่วยเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งการลงทุนสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตนได้

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ซีไอเอ็มบี ไทยมี Wealth Credit Line ซึ่งเป็นวงเงินพิเศษ เพื่อมอบสภาพคล่องให้กับลูกค้าที่มีการลงทุนกับเราอยู่แล้ว และต้องการลงทุนเพิ่มโดยไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์ในพอร์ทการลงทุน 

บริการดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ลูกค้า ในขณะที่สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการการลงทุนเพื่อให้ตอบโจทย์ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ลูกค้าต้องการ ในขณะเดียวกัน เงินฝากยังคงเป็นรากฐานหลักในการบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าทุกคน ธนาคารมุ่งมั่นที่จะมอบอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้มากที่สุด ทั้งในส่วนของบัญชีออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากดิจิทัล เงินฝากประจำ และเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ (FCD) รวมถึงบัญชีเงินฝากสำหรับ CIMB Preferred ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.2% รวมถึงอัตราพิเศษเป็นโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่

“จุดแข็งของ CIMB Thai ในฐานะธนาคารระดับภูมิภาค ช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยงลูกค้ากับข้อเสนอแนะที่ดีที่สุดในระดับภูมิภาค เช่น ผลิตภัณฑ์ offshore insurance ที่มาพร้อมกับการจัดหาเงินทุนระดับพรีเมียมสำหรับลูกค้า CIMB Preferred รวมไปถึง รางวัล และสิทธิพิเศษระดับภูมิภาค สำหรับ การศึกษา การแพทย์ และครอบครัวของลูกค้า นอกจากนี้ ทีมวิเคราะห์และวิจัยของ Chief Investment Officer (CIO) ระดับภูมิภาคของ CIMB Thai จะช่วยให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดและปรับให้เหมาะลูกค้า CIMB Preferred เพราะความไว้วางใจและประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของเรา” นายติยะชัย กล่าว 

น.ส.กมลพรพรรณ ภัทรฤทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการ กลยุทธ์ลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า จากกลยุทธ์ดูแลลูกค้า Wealth อย่างเข้าใจ ใกล้ชิด และตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่าง ธนาคารมีแผนงานขยายฐานลูกค้า CIMB Preferred ให้เติบโตต่อเนื่องมากกว่า 12% ต่อปี จากปัจจุบันมีสมาชิก  CIMB Preferred ประมาณ 100,000 ราย และมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) 3.6 แสนล้านบาท และจากการศึกษาความต้องการของลูกค้า พบเป้าหมายที่แตกต่างกันของลูกค้า 3 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่ม Preferred 3-10 ล้านบาท กลุ่ม Preferred Elite 10-30 ล้านบาท และ Private Wealth 30 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนของ CIMB Thai มีจุดแข็งเรื่องความหลากหลายและครบทุกความต้องการ ธนาคารจึงสามารถคัดสรร และนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบบริการได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

นายสุวดิศ ดิสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารช่องทางการขายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า อีกจุดแข็งที่โดดเด่นของ CIMB Thai คือ เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า จากการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าทางด้าน Wealth ที่ผ่านมา CIMB Thai ได้รับคะแนนความพึงพอใจในอันดับต้นๆ มาโดยตลอด และปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่น คือความรู้ความสามารถและการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล   โดยเรามีการพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกช่วงอายุการทำงาน   เริ่มตั้งแต่มีกระบวนก

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย