ตลาดหลักทรัพย์ 29 ก.ย.- รองนายกรัฐมนตรี”สมคิด
จาตุศรีพิทักษ์”กล่อมบริษัทจดทะเบียน
และพันธมิตรสมาคมบริษัทจดทะเบียนฯ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมฯ
สมาคมธนาคารไทย ร่วมแก้ปัญหาสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างพื้นฐานเศรษฐกิจระยะยาว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “สานพลังบริษัทจดทะเบียนไทย
เพื่อสังคมไทยยั่งยืน” โดยยอมรับว่าสังคมไทยมีคนด้อยโอกาสเต็มไปหมด
จึงฝันอยากช่วยเหลือไทยให้พ้นจากปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นประเทศที่เจริญ มั่งคั่ง
จึงอยากนำบทเรียนมาพัฒนาประเทศ เหมือนสิงคโปร์ที่ฝ่าฟันปัญหาจนเป็นที่ยอมรับ
ญี่ปุ่นเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติแผ่นดินไหว พัฒนาเติบโตเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
ขณะที่ไทยแม้หลายปัจจัยเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งการส่งออก
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เบิกจ่ายภาครัฐ จนทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
กระทรวงการคลัง และธนาคารพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)
เตรียมปรับเป้าหมายจีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้นมีความสำคัญ
รัฐบาลจึงต้องการนำบริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชนมาร่วมสร้างสังคัมแบบประชารัฐ
เพราะไทยเป็นประเทศแรกที่ใช้แนวทางดังกล่าว
จึงคาดว่าจะดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมจำนวนมาก
นายสมคิด กล่าวอีกว่า
กรณีผู้มีรายได้น้อยเดินทางมารับบัตรสวัสดิการจำนวนไม่มากนัก
เพราะนโยบายดังกล่าวเพิ่งดำเนินการเป็นครั้งแรก
จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย
ส่วนบัตรสวัสดิการที่รับไปแล้วแต่ยังใช้งานได้ไม่ทัน 1
ตุลาคมนี้
เพราะร้านสวัสดิการติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC ยังไม่ทั่วถึง
รัฐบาลพร้อมโอนสิทธิ์ดังกล่าวไปในเดือนถัดไป
หลังจากเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง
เพื่อเร่งรัดแก้ปัญหาดังกล่าว คาดว่ากรมบัญชีกลางจะเร่งรัดวางระบบได้อย่างครบถ้วนในเร็ว
ๆ นี้
ส่วนกรณีการเดินทางร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ
นับว่าการหารือระดับผู้นำไทย-สหรัฐ
จะทำให้มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจคืบหน้าเพิ่มเติมในหลายด้าน
นอกจากการค้าและการลงทุน เพราะบรรยากาศการเมืองของไทยดีขึ้น ทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้นมากแล้ว
ความร่วมมือกับสหรัฐจะแนบแน่นมากขึ้น ขณะที่การเจรจานำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐมาจำหน่ายในประเทศ
และส่งผลกระทบต่อสุขภาพเพราะมีสารเร่งเนื้อแดงและกระทบต่อสุกรในประเทศนั้น
เชื่อมั่นว่ากระทรวงพาณิชย์จะเจรจาให้ได้ผลดีต่อไทยมากที่สุด
นายชัยวัฒน์
วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียน คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย
และเป็นกำลังหลักในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว จึงมุ่งให้บริษัทจดทะเบียนกว่า 600 บริษัท
มีส่วนร่วมพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม อาทิ การสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาเยาวชน
การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ การสร้างและพัฒนาทักษะแรงงาน
และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง
การเข้าร่วมโครงการประชารัฐเพื่อสังคมในการผลักดันการแก้ปัญหาสังคมที่เป็นปัญหาเร่งด่วนอื่น
ๆ ด้วย ได้แก่ การออมเพื่อการเกษียณอายุ
การพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัย และความปลอดภัยทางถนน
ที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนได้ดำเนินโครงการนับพันโครงการ -สำนักข่าวไทย