SET Index สิ้นปี 67 ปรับลงเพียง 1.1% “อัสสเดช” ชี้จับตานโยบายทรัมป์ 2.0

กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – SET Index สิ้นปี 2567 ปรับลงเพียง 1.1% “อัสสเดช” จับตานโยบายทรัมป์ 2.0 ส่งผล Fund Flow ประสาน ก.ล.ต. หาแนวทางเปิดเผยข้อมูลจำนำหุ้น หลังเกิด Forced Sell บ่อยครั้ง เชื่อมาตรการ Easy-E-Reciept ส่งผลดีกลุ่มค้าปลีก


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนธันวาคม 2567 โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม SET Index ปิดที่ 1,400.21 จุด ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 7.6% ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 SET Index ปรับลดลงเพียง 1.1% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มการเงิน

มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 40,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่ในปี 2567 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,551 ล้านบาท ลดลง 12.7% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด สามเดือนต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. โรงพยาบาลนครธน (NKT) และ ใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF)


Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.8 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า ขณะที่ อัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 3.45% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.17%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนธันวาคม 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 538,570 สัญญา เพิ่มขึ้น 10.4% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ทำให้ในปี 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 483,772 สัญญา ลดลง 9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures

นายศรพล กล่าวต่อว่า SET Index ในปี 2567 ปิดในระดับที่แทบไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้า โดยตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 และปี 2568 ยังสามารถขยายตัวได้ดี นำโดยภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว แต่อาจเผชิญความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้แคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility” โดยแบ่งนโยบายออกเป็น 2 กลุ่มหลัก รวม 11 นโยบาย ซึ่งน่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อหุ้นในหลาย Sector ที่เกี่ยวข้อง


ส่วนปัจจัยต่างประเทศ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์ GDP ของโลกในปี 2568 ลงเล็กน้อย จากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการแยกตัวทางเศรษฐกิจ (Decoupling) อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความผันผวนและการเติบโตช้าลง สอดคล้องกับมุมมองธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ประชุมเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2567 แม้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% แต่ส่งสัญญาณว่าในปี 2568 การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอาจจะไม่ง่ายนัก ทำให้ตลาดหุ้นกลับตอบสนองในเชิงลบในระยะสั้น

สำหรับคาดการณ์ภาวะตลาดทุนไทยช่วงต้นปีนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจไทย รวมถึงความคืบหน้าการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC จะช่วยดึงการลงทุนเข้าประเทศในระยะยาว แต่ยังมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่จะส่งผลต่อการลงทุน หากไทยได้รับอานิสงค์ในการลงทุนบางส่วนก็จะช่วยหนุนภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ยังมีนโยบายของ “ทรัมป์” ที่ส่งผลกระทบเชิงบวก ด้านการย้ายฐานการการผลิตในภูมิภาคทั้งจากสหรัฐฯและจีน แต่สิ่งน่ากังวลคือ “ทรัมป์” ไม่ได้สนับสนุนนโยบายด้าน ‘สีเขียว’ ในภูมิภาค เชื่อว่าหากนโยบายของ “ทรัมป์” มีความชัดเจนจะช่วยดึงเงินทุนไหลกลับเข้าประเทศมากขึ้น พร้อมย้ำว่านักลงทุนยังต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง มีความความระมัดระวัง และติดตามข่าวสารก่อนตัดสินใจลงทุน

ส่วนมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย Easy-E-Reciept มองว่าจะช่วยดึงการซื้อขายในกลุ่มที่มีกำลังซื้อและร้านค้า เป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากไม่ได้ใช้งบประมาณภาครัฐมากนัก และจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกอีกด้วย

ด้านนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ต้องติดตามการประกาศนโยบายของนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานธิบดีสหรัฐ ที่กำลังจะก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ว่าจะส่งผลอย่างไร แต่เมื่อดูจากครั้งรับตำแหน่งสมัยแรก พบว่ามีการเคลื่อนย้ายนเงินทุนกว่า 1.2 แสนล้านดอลล่าสหรัฐ โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนที่ไหลเข้าไทยประมาณ 10% ดังนั้นจึงต้องรอดูว่ารอบนี้ไทยจะสามารถดึงเม็ดเงิน เข้ามาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินทุกแนวทางเพื่อให้ตลาดทุนมีความน่าสนใจและสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนนำหุ้นไปจำนำ และเกิดปัญหาถูกบังคับขาย (Forced Sell) มาอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาถึงแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้น เพื่อให้นักลงทุนได้ทราบข้อมุลและใช้ประกอบในการตัดสินใจในการลงทุน.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสารขาออกวันนี้

การเดินทางขาออกในเทศกาลสงกรานต์ 2568 ถือว่ารถโดยสารของ บขส. ยังมีบทบาทสำคัญ เพราะเป็นวันหยุด มีผู้โดยสารเดินทางแน่นตลอดวัน วันนี้ บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสาร

นายกฯ เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025”

นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ ท้องสนามหลวง ฉลองปีใหม่ไทย จัดเต็มปรากฏการณ์สาดความสุขครั้งยิ่งใหญ่ หนุนมรดกไทยสู่ World Event ระดับโลก

สงกรานต์หาดใหญ่ คาดเงินสะพัด 780 ล้านบาท

สงกรานต์หาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้คึกคัก ททท. คาดมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมกว่า 7 หมื่นคน เงินสะพัดทั่วจังหวัดกว่า 780 ล้านบาท