ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าปี 67 สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเอสเอ็มอี 2,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – ธ.ไทยพาณิชย์ เดินหน้าแนวทาง “เริ่ม เพื่อ รอด” ตั้งเป้าลูกค้าเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 1,000 กิจการ และสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี พร้อมเปิดตัวโครงการที่ปรึกษาทางธุรกิจ SCB SME Mentor รุ่นที่ 4 ชี้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอดได้


นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าธุรกิจเอสเอ็มอียังคงเผชิญความท้าทายสำคัญจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน ตามด้วยต้นทุนค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น  ขณะที่ความกังวลทางเศรษฐกิจ ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งใหม่ๆ  

แต่ด้วยแนวคิด ธนาคารไทยพาณิชย์ “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี พร้อมสานต่อแนวคิดดังกล่าว โดยประกาศแนวทาง “เริ่ม เพื่อ รอด” ให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีสู่การเป็นธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืนผ่าน 2 โครงการ 1.โครงการสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี หากผ่านมาตรฐานคาร์บอนเครดิตลดดอกเบี้ยให้อีก 1% ในแรก และ 2. โครงการที่ปรึกษาทางธุรกิจ SCB SME Mentor รุ่นที่ 4 Sustainability เป็นที่ปรึกษาให้ธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวข้ามผ่านสู่ความยั่งยืน โดยผนึกกำลัง 3 หน่วยงาน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม , สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ , และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และอีก 1 บริษัทเอกชน บริษัท แพค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมมือกันนำความรู้ ประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการสร้างความยั่งยืนในธุรกิจและใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมให้แก่นักธุรกิจ SMEs รายอื่นๆ เพื่อร่วมวางยุทธศาสตร์การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ SMEs ในระยะยาว รวมถึงการให้ทุนสนับสนุน เอสเอ็มอีเปลี่ยนสู่ความยั่งยืน


นางพิกุล เชื่อว่า ด้วยแนวทาง “เริ่ม เพื่อ รอด” จะมีส่วนสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยเพิ่มความตระหนักรู้และเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องคำนึงถึง ESG ให้มีโอกาสรอดก่อน และนำมาซึ่งโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ การดึงดูดนักลงทุนและลูกค้ายุคใหม่ โดยตั้งเป้าจำนวนลูกค้าเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 1,000 กิจการ และปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อปรับตัวรับกับความท้าทายทั้งในรูปแบบสินเชื่อ การจัดกิจกรรมสัมมนาและหลักสูตรการให้ความรู้ต่างๆ ส่งผลให้การบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีมีประสิทธิภาพ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 พอร์ตสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีมีจำนวน  250,893 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบจากสิ้นปี 2566
 
จุดอ่อนของเอสเอ็มอีในการปรับตัวเข้าสู่กระแส ESG มี 5 ข้อใหญ่ได้แก่ ขาดความรู้และความเข้าใจ, กังวลต่อต้นทุนที่จะสูงขึ้นจากการปรับตัว, เงินทุนและสภาพคล่องที่อาจไม่เพียงพอ, คู่ค้ายังไม่ให้ความสำคัญและอาจจะยังไม่เห็นผลกระทบ และความตระหนักรู้ของพนักงานค่อนข้างจำกัด ธนาคารจึงได้นำเสนอสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยนับตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบันอนุมัติวงเงินสินเชื่อไปมากกว่า 3,000 ล้านบาท

โดยวางเป้าหมาย ปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 2567 จำนวน 4 หมื่นล้านบาท และปี 2568 จำนวน 6 หมื่นล้านบาท แต่จะเพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายที่จะปรับตัวทางโครงสร้างรายได้และโครงสร้างต้นทุนในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยของแต่ละราย


ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.25% ต่อปี ส่งผลให้ลูกหนี้ในกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) อยู่ในอัตราคงที่ ทำให้ตั้งเป้าหนี้เสีย หรือ NPL ในปีหน้า อยู่ในระดับไม่เกิน 3% หรือ 2.5 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง 3.5 พันล้านบาท ซึ่งรวมถึงเอสเอ็มอีกลุ่มเปราะบางที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ อยู่ในกลุ่มธุรกิจซื้อมาขายไปกระจายตามอุตสาหกรรมต่างๆ

สำหรับการพิจารณาการแฮร์คัทหนี้ที่เกิดในช่วงโควิด-19 หรือการลดการนำเงินส่งกองทุน FIDF รวมถึงมาตรการช่วยลูกหนี้ในกลุ่มเอสเอ็มอี จะมีการพิจารณาผู้ประกอบการเป็นรายๆไปตามสถานการณ์ แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องลุกขึ้นมาปรับตัวให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ บวกกับ มาตรการทางภาครัฐที่ออกมาช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอี และการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในโครงการดังกล่าว ล้วนแล้วแต่ช่วยเอสเอ็มอีไทยทั้งสิ้น.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก