ไทยพาณิชย์ชี้ดิจิทัลวอลเล็ตดันจีดีพีปี 68 เพิ่ม 0.5-0.7% ประเมินน้ำท่วมเชียงราย เสียหาย 400 ลบ.

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินนโยบายเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลบวกธุรกิจกลุ่มบริโภค-ท่องเที่ยว-เกษตร ชี้ Digital Wallet ปรับเป้าหมายเฉพาะกลุ่มเหมาะสม แต่กระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราว ดันจีดีพีปี 68 เพิ่ม 0.5-0.7% ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังเป็นปัญหาใหญ่ คาด กนง.เริ่มลดดอกเบี้ย ธ.ค. ต่อเนื่องต้นปีหน้าอยู่ที่ 2% ประเมินน้ำท่วมเชียงรายเสียหาย 400 ล้านบาท


นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หลังจากเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก ภาพรวมทั้งปี 2567 จะขยายตัว 2.7% และมีแนวโน้ม Soft landing ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยที่ 2.8% ในปี 2568 แม้ว่าขณะนี้ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เพราะอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเร็วจนเข้าเกณฑ์ของดัชนีเตือนเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี SCB EIC ประเมินว่าโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะ Soft landing ยังมีสูงกว่ามาก หากดูจากแรงส่งที่ดีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักในช่วงครึ่งปีแรก และข้อมูลเร็วสะท้อนการขยายตัวในระยะข้างหน้า นอกจากนี้อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเร็ว โดยในช่วงที่เหลือของปี 2567 และ 2568 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 2.0% และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกรวม 1.50% อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดัน ทั้งการเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ การออกมาตรการกีดกันระหว่างประเทศ ทั้งนี้การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปลายปีนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า

สำหรับเศรษฐกิจไทย SCB EIC ประเมินปี 2567 ยังคงขยายตัวต่ำที่ 2.5% แต่สิ่งที่อยากเน้นปี 2568 ปรับ GDP ลงมาอยู่ที่ 2.6% ชะลอลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ถือว่าโตเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 ที่ 39.4 ล้านคน โดยการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังถูกกดดันจากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่การส่งออกไทยปี 2568 ยังเติบโตต่ำกว่าในอดีต ซึ่งนอกจากเป็นผลจากปัญหาเชิงโครงสร้างแล้ว ยังมาจากปัญหาเชิงวัฏวักรที่เข้ามาฉุดเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ส่งผลต่อภาคการผลิตในประเทศที่ลดลง การตึงตัวของภาคการเงิน และนักลงทุนชะลอการลงทุน ซึ่งในอนาคตระยะสั้น หน่วยงานภาคธนาคาร ภาคการเงิน และภาคการคลังต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานโยบายทางการเงินและการคลัง เพื่อช่วยกันประคองเศรษฐกิจไม่ให้หมุนลง ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง


ขณะที่โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีการปรับวัตถุประสงค์มาเป็นการใช้เงินเฉพาะกลุ่ม SCB EIC มองว่าเหมาะสมมากกว่าการเหวี่ยงแห ซึ่งจะทำให้คนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.5-0.7% ส่งผลให้จีดีพีขึ้นมาแตะในระดับ 3% แม้ใช้วงเงินสูง แต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่และชั่วคราว ส่งผลให้หนี้สาธารณะไทยอาจมีแนวโน้มชนเพดานในปี 2570

นายสมประวิณ ย้ำว่าปัญหาหนี้ครัวเรือน คือปัญหาสำคัญที่สุดในขณะนี้ สัดส่วนหนี้อยู่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจำนวนมาก บวกกับหนี้ภาคเอกชน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้หนี้ครัวเรือนที่ออกมาหลายรูปแบบทั้ง หนุนสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ การลดเงินนำเข้า FIDF และการแฮร์คัทหนี้ โดยมองว่าหลักการสำคัญในการแก้หนี้ต้องคำนึงถึง Moral Hazard เพื่อให้ระบบการเงินเดินหน้าถูกต้อง และสถาบันการเงินจะต้องสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ร่วมกันแก้หนี้ พร้อมทั้งต้องเตรียมแนวทางเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขี้นในอนาคต

สำหรับนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนของ ครม. ชุดใหม่เป็นการสานต่อนโยบาย ครม. ชุดก่อน โดยมีจุดเน้นมากขึ้นที่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจกลุ่มเปราะบาง SCB EIC ประเมินชุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะสั้น จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ท่องเที่ยว และภาคเกษตร ขณะที่ธุรกิจที่มีแรงงานขั้นพื้นฐานในสัดส่วนสูงจะได้รับผลกระทบด้านต้นทุน และธุรกิจพลังงานอาจได้รับผลกระทบด้านรายได้ สำหรับนโยบายส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมที่สอดรับเทรนด์โลก และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สำหรับนโยบายสิ่งแวดล้อมยังเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว


นอกจากนี้ SCE EIC ยังประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น เมื่อรวมกับสถานการณ์ที่จ.เชียงรายล่าสุด นับรวมเป็นมูลค่าครั้งที่ 7 มูลค่าความเสียหายในภาคการเกษตร จากเดิม 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาท

SCB EIC ยังประเมิน กนง. มีแนวโน้มเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ธ.ค. และต่อเนื่องช่วงต้นปีหน้าไปอยู่ที่ 2% จากสัญญาณอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะการเงินตึงตัวนาน สำหรับค่าเงินบาท ช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าเร็วหลังดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ราคาทองคำสูงขึ้น และความกังวลการเมืองไทยที่คลี่คลาย ในระยะสั้นเงินบาทอาจอ่อนค่าเล็กน้อยจากปัจจัยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก่อนกลับสู่เทรนด์แข็งค่าตาม Easing cycle ของสหรัฐฯ สำหรับ ณ สิ้นปี 2567 และ 2568 ประเมินเงินบาทอยู่ในกรอบ 34 – 34.5 และ 33 – 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ