ก.ล.ต.ออกเตือนซ้ำ ระแวดระวังก่อนถูกหลอกลงทุน

กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตือนประชาชนและผู้ลงทุนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพหลอกลวง แอบอ้างชักชวนลงทุนสร้างความเสียหาย แนะ3 ข้อ สังเกตระมัดระวังก่อนลงทุน เผยร่วมมือประสานปิดกั้นบัญชีโซเชียลมีเดียหลอกลงทุนกว่าพันบัญชี


นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า ปัจจุบันมีภัยหลอกลวงลงทุนได้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นมูลค่าสูงมาก และมักมาพร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์อย่างแนบเนียน จนทำให้ผู้ถูกชักชวนหลงเข้าใจผิดว่าเป็นการชักชวนโดยบุคคลหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จากสถิติการดำเนินการของ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแส รวมทั้งสิ้น 3,451 ครั้ง มีบัญชีโซเชียลมีเดียเข้าข่ายหลอกลงทุนที่ประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อปิดกั้น จำนวน 1,877 บัญชี โดยได้ปิดกั้นไปแล้วร้อยละ 99 และส่วนที่เหลือเป็นการให้คำปรึกษาในเรื่องการหลอกลงทุนกรณีอื่น ๆ

สำหรับพฤติการณ์หลอกลวงที่พบในระยะนี้ เช่น มิจฉาชีพมักยิงโฆษณาในพื้นที่โฆษณาของแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เหมือนกับบริษัททั่วไปที่จะยิงโฆษณาเพื่อกระตุ้นการซื้อในสินค้าหรือบริการ โดยภาพและข้อความของโฆษณามักแอบอ้างชื่อ/โลโก้ของบริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพื่อให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดและคิดว่าเป็นโฆษณาของบริษัทที่อ้างมา พร้อมด้วยข้อความเชิญชวนให้เข้ากลุ่มสนทนาเพื่อรับฟังข้อมูลการลงทุน อาทิ การซื้อขาย Big Lot และเมื่อเข้ากลุ่มมาแล้วหากแสดงความสนใจ มิจฉาชีพจะเข้ามาคุยกับผู้ที่สนใจเป็นการส่วนตัว และโน้มน้าวให้ลงทุนพร้อมกับจัดส่งลิงก์หน้าเว็บไซต์จริงของบริษัทที่นำไปแอบอ้าง เมื่อถึงขั้นตอนการโอนเงินเพื่อเปิดบัญชีซื้อขาย จะส่งลิงก์เว็บไซต์ปลอมและบัญชีธนาคาร (ของเครือข่ายมิจฉาชีพทั้งที่เป็นชื่อบุคคลธรรมดาและนิติบุคล) ที่ไม่ใช่ชื่อของบริษัทที่นำมาใช้แอบอ้าง


นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการหลอกลวงที่แนบเนียบขึ้น โดยมิจฉาชีพจะส่งเลขบัญชีโอนเงินที่เป็นชื่อของบริษัทที่นำมาแอบอ้างเพื่อเปิดบัญชีซื้อขายให้กับผู้ที่สนใจ แต่หลังจากนั้นการโอนเงินเพื่อซื้อในครั้งถัด ๆ ไป จะลวงให้โอนเงินค่าซื้อเข้าบัญชีอื่น (ของเครือข่ายมิจฉาชีพทั้งที่เป็นชื่อของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ที่ไม่ใช่ชื่อของบริษัทที่นำมาใช้แอบอ้าง

ก.ล.ต.จึงแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการรับข้อมูลชักชวนให้ลงทุน โดยฉพาะผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อย่าหลงเชื่อเมื่อพบความผิดปกติ และควรตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยมีจุดสังเกต 3 ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้
(1) หากถูกทักส่วนตัวและชักชวนลงทุนในช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น ส่งข้อความในไลน์ส่วนตัว หรือกล่องข้อความส่วนตัวในเฟซบุ๊ก (Messenger) ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ เพราะผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่มักไม่ชักชวนลงทุนในลักษณะส่วนตัวผ่านโซเชียลมีเดีย
(2) หากถูกชักชวนโดยอ้างชื่อ/ภาพของบุคคลใดก็ตามในข้อความโฆษณา ให้สงสัยไว้ก่อนและสอบถามด้วยตัวเองกับบริษัทที่ถูกอ้างชื่อว่า มีบุคคลนั้นเป็นบุคคลากรทำหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนอยู่ในบริษัทจริงหรือไม่ เพราะมิจฉาชีพมักจะแอบอ้างเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือหรือมีชื่อเสียง รวมทั้งต้องตรวจเช็กด้วยว่าบริษัทนั้น ๆ เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตหรือไม่
(3) ก่อนโอนเงินชำระค่าเปิดบัญชีซื้อขายหรือค่าซื้อต้องตรวจดูชื่อบัญชีธนาคารปลายทางก่อนโอนทุกครั้งว่า เป็นชื่อบัญชีของบริษัทที่ประสงค์จะลงทุนจริงหรือไม่

“ภัยหลอกลวงลงทุนถือเป็นภัยร้ายแรง ก.ล.ต. ร่วม “ป้อง ปราม ปราบ” ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการเงินการลงทุน รวมทั้งสามารถป้องกันตนเองจากภัยหลอกลงทุน และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องปรามอีกด้วย เช่น การปิดกั้นแพล็ตฟอร์มหลอกลงทุน เป็นต้น เพื่อยับยั้งหรือจำกัดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนไม่ให้ขยายออกวงออกไปให้มากที่สุด”


ทั้งนี้ หากสงสัยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัท บุคคล ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th/seccheckfirst หรือที่แอปพลิเคชัน “SEC Check First” และหากพบเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย หรือสงสัยว่าถูกชักชวนหลอกลงทุน โทรขอคำปรึกษาหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” โทร. 1207 กด 22 หรือ เฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ จากการทำร้ายตัวเอง ไม่พบรอยช้ำที่เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อลำคอ ญาติพอใจ แต่ขอส่งศพผ่ารอบสองที่นิติเวช จุฬาฯ เปรียบเทียบผล ส่วนประเด็นผ้าที่ใช้ผูก เข้าได้กับรอยที่คอที่มีขนาดกว้างกว่าเชือก

ป่วนใต้ ยิงถล่ม-คาร์บอมบ์ “นราฯ-ปัตตานี” เสียชีวิตหลายราย

ชายแดนใต้ป่วนหนัก คนร้ายกว่า 10 คน กราดยิง-คาร์บอมบ์ หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ตาย 2 ราย เจ็บ 10 คน ส่วนปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สายบุรี เสียชีวิต 3 ราย

นายกฯ ลั่นไม่มีล็อบบี้ถอดชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติซักฟอก

นายกฯ ลั่นไม่มีล็อบบี้ประธานสภาฯ ถอดชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติซักฟอก เผยส่วนตัวมองไม่สมควรมีชื่อบุคคลที่สาม เพราะในสภาพูด แต่คนนอกไม่มีสิทธิชี้แจง-ตอบโต้ ย้ำพร้อมแจงฝ่ายค้านให้ครบทุกประเด็น

พ่อเมืองโคราชจัดตักบาตรพระสงฆ์หมื่นรูป ทำบุญเมือง 557 ปี

โคราชจัดพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 10,000 รูป สมโภชเมืองนครราชสีมา 557 ปี รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน มีพุทธศาสนิกชนหลายหมื่นคนร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนของคณะสงฆ์ 323 วัดใน 4 จังหวัดภาคใต้