กรุงเทพฯ 6 ส.ค. -ธอส.จัดกรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท จัดทำโครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) คิดดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี ผ่อนชำระต่ำ เริ่มต้นล้านละ 3,000 บาท/เดือน
ธอส.หนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น จัดเตรียมวงเงิน 50,000 ล้านบาท จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์)” สำหรับผู้ต้องการมีบ้าน จากโครงการจัดสรรที่มีข้อตกลงร่วมกับ ธอส.คิดดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.80% เท่านั้น ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง ล้านละ 3,000 บาทต่อเดือน พิเศษ! กรณีเป็นสัญญาแรก มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะได้รับวงเงินกู้ 110% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย สำหรับลูกค้า ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม ดำเนินโครงการโดยผู้ประกอบการโครงการจัดสรร (Developer) มีข้อตกลงร่วมกับ ธอส. รวมถึงซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยพร้อมกับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1.90% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี และปีที่ 3 เท่ากับ 3.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.80% เท่านั้น) ขณะที่ปีที่ 4 – 5 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา
กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณี ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้สูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,000 บาทต่อเดือน เท่านั้น พิเศษ!! กรณีเป็นสัญญาแรก มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ลูกค้าจะได้รับวงเงินกู้ 110% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการมีที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ ณ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 หรือ ธอส. ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
“ธอส.พร้อมช่วยเหลือลูกค้าให้มีบ้านได้ ด้วยการให้วงเงินกู้สูงถึง 110% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรก อยู่ในระดับต่ำ จะทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบและ เหมาะสมอีกด้วย” นายกมลภพ กล่าว.-515- สำนักข่าวไทย