กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – ทริสเรตติ้ง ยอมรับปีนี้มีหลาย บจ.ถูกปรับลด Credit Rating จากรายได้ลด—หนี้เพิ่ม -ความเสี่ยงธุรกิจเพิ่ม ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น
นายศักดา พงศ์เจริญยง กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริสเรตติ้ง กล่าวถึงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของตราสารหนี้เอกชน หรือหุ้นกู้ ว่าพิจารณาจากระดับรายได้และระดับหนี้ กรณีที่มีการปรับอันดับลง ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่ารายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และระดับหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นเทียบกับความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัท หากมีหนี้ในระดับสูง แต่มีความสามารถในการสร้างรายได้ที่สูงก็จะไม่กระทบต่อเรตติ้ง แต่ถ้าระดับหนี้มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ความสามารถในการสร้างรายได้ลดลง อย่างมีนัยสำคัญก็อาจมีการพิจารณาลดอันดับเครดิต
สำหรับปีนี้ เมี่อเทียบกับปีที่แล้ว ยอมรับว่า มี บจ.ที่ถูกปรับเครดิตเรตติ้งค่อนข้างมาก จากปัจจัยแตกต่างกันไป อาทิ รายได้ลดลง ความเสี่ยงธุรกิจเพิ่มขึ้น ระดับหนี้เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนการออกตราสารหนี้ช่วงครึ่งแรกปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีเครดิตเรตติ้งค่อนข้างสูง ตั้งแต่ BBB ขึ้นไป บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่มีเครดิตเรตติ้งต่ำ ก็จะได้รับความน่าสนใจน้อยลง ยอมรับว่านักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากในช่วงปีที่ผ่านมา มีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกรณีการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทที่ออกตราสารหนี้รายใหญ่รายหนึ่งซึ่งผู้บริหารของบริษัทถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตเกี่ยวกับการตกแต่งข้อมูลทางบัญชี
สำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่สนใจลงทุนในหู้นกู้ สามารถใช้เครดิตเรตติ้งเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาได้ หรือพิจารณาจากเรตติ้ง รีพอร์ต ที่จะได้ข้อมูลในเชิงลึกเพิ่มขึ้น แต่ควรขอแนะนำจากที่ปรึกษาการเงินเพิ่มเติม.-516-สำนักข่าวไทย