โฆษกรัฐบาล ยันเงินดิจิทัลไม่กระทบวินัยคลัง

ทำเนียบ 28 ต.ค.-โฆษกรัฐบาล ยกความเห็น ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร นักเศรษฐศาสตร์ระดับภูมิภาค ยืนยันนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง ไม่กระทบ Credit Rating ของประเทศ

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงการให้สัมภาษณ์ของ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร นักเศรษฐศาสตร์ระดับภูมิภาค เรื่องเงินดิจิทัล ซึ่งดร.ศุภวุฒิ ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจโดยสรุปว่านโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง และไม่กระทบ Credit Rating ของประเทศ


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดร.ศุภวุฒิ ได้กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล ใช้เงิน 5.6 แสนล้าน คิดเป็น 3% ของ GDP ประเทศ และความสามารถของนโยบายที่ทำให้ GDP โต ก็จะทำให้หนี้สาธารณะไม่เยอะ โดย ดร.ศุภวุฒิมีความเห็นว่า หากเป็นไปตามการคาดการณ์เศรษฐกิจของแบงก์ชาติ ในปีหน้า GDP จะโต 4.4% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.4% ก็เท่ากับหนี้สาธารณะต่อ GDP จะไม่โตเยอะ หรืออาจโตที่ 62% กว่า ๆ เท่ากับปัจจุบันด้วยซ้ำไป ซึ่งปัญหาของเงินดิจิทัลตอนนี้มีเพียงเรื่อง Cash flow เอาเงินมาจากไหน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการใช้จ่าย เพราะแหล่งที่มาของเงินติดปัญหากฎเกณฑ์

นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวต่อไปว่า ดร.ศุภวุฒิ ให้ความเห็นถึงกรณีรัฐบาลประยุทธ์ กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.18% ของ GDP แต่ก็ฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่ได้ ว่า จุดประสงค์เงินกู้รัฐบาลประยุทธ์ แบ่งเป็น ช่วยเหลือเยียวยา 5.5 แสนล้านบาท ฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท และช่วยเหลือการระบาด 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ‘ทำไม่ได้’ ไม่ได้ใช้เลย เพราะการหาโครงการที่ดี ใช้แล้วมีผลทันที ยาก (Impact lag) เงินก้อนนี้ จึงโอนไปเพิ่มการเยียวยา


ขณะที่ในเรื่องเศรษฐกิจดีแล้วจริงหรือ? ดูที่ตัวชี้วัด ดร.ศุภวุฒิ ได้ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยติดลบ -18.33% แย่ที่สุดในโลก รองจากอิสราเอล -21.1% (YTD/Year to date) และแบงก์ปล่อยกู้ลดลง ไม่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นชัดว่า เศรษฐกิจไม่ได้ดีตามแบงก์ชาติคาด และรัฐบาลเศรษฐายืนอยู่กับปัญหาที่สั่งสมมา และยังไม่ได้แก้ไข ประกอบกับความท้าทายในปัจจุบัน โดย ดร.ศุภวุฒิ ยังให้ความเห็นถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ว่า แบงก์ไม่ปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยขึ้นเร็วมาก เงินเฟ้อลงเร็วมาก เท่ากับว่า ดอกเบี้ยจริงของเราสูงมาก ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทัน เพราะเจอปัญหาใหญ่ ทั้งสภาพคล่อง และแบงก์ไม่ปล่อยกู้

นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวอีกว่า ดร.ศุภวุฒิ ให้ความเห็นถึงกรณีกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไหนจึงดี เพราะไม่กระตุ้น เศรษฐกิจอาจฟุบลงด้วยซ้ำ โดยได้อธิบายถึงหลักการเงินดิจิทัลคือ เอาเงินใส่มือ ให้ประชาชนใช้ หากจะหมุนน้อยรอบหน่อย ก็สามารถเข้าใจได้ เปรียบเทียบกับโครงการ เช่น Landbridge ใช้ระยะเวลาจึงจะให้ผลตอบแทน ‘แรง เร็ว ไม่คิดมาก’ จึงสำคัญ และ ดร.ศุภวุฒิ ยังได้อธิบายว่า นโยบายการเงิน ต่างจาก นโยบายการคลัง โดย นโยบายการเงิน คือการขึ้นดอกเบี้ย หรือความตึงของระบบการเงินวันนี้ ผลจะไปเกิดกลางปีหน้าอย่างช้า (อัตราที่ 6-9 เดือน) ส่วนนโยบายการคลัง Impact lag ไม่มี(หมายถึง นโยบายทางการคลังจะส่งผลทันที ไม่เหมือนนโยบายทางการเงินที่กว่าจะส่งผลก็ต้องทอดเวลาไปอีก 6-9 เดือน) ขณะนี้นโยบายการเงินกำลังบีบเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงต้องใช้นโยบายทางการคลังเข้ากระตุ้น

ส่วนถ้าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเด็นที่ควรคิดคือ จะทำให้ GDP โตกว่าหนี้ ได้อย่างไร เพราะเมื่อ GDP โต หนี้สาธารณะต่อ GDP จะลดลง และวินัยการเงินการคลังจะกลับมา นั้น ดร.ศุภวุฒิ ได้ยกตัวอย่างประสบการณ์ในอดีต วิกฤตเศรษฐกิจ 2540 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ออก พรบ. รับหนี้กองทุนฟื้นฟู 1 แสนล้านบาทให้เป็นหนี้ของรัฐ สามารถลดหนี้สาธารณะลงจาก 58% เหลือ 40% เพราะทำให้ GDP โตกว่าหนี้


นอกจากนี้ ดร.ศุภวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า ให้เงินประชาชน ต้องไว้ใจประชาชน สิ่งที่ควรทำคือ เสนอแนะให้ประชาชนลงทุน เพราะมีผลต่อความงอกงามของเงิน ซึ่งเรื่องนี้ เงินจะงอกเงยได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการไกด์ของรัฐบาล

“รัฐบาลขอขอบคุณทุกความเห็นจากทุกภาคส่วนที่มีต่อนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ขอยืนยันว่ารัฐบาลยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็น รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เห็นต่างอย่างรอบด้าน และพร้อมพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ อย่างรอบคอบด้วยกลไกการดำเนินการอย่างเป็นระบบ” นายสัตวแพทย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย