กรมสรรพสามิต 30 พ.ค. – “จุลพันธ์” หนุน “สรรพสามิต หัวหอก นำเศรษฐกิจสีเขียว” หนุนสุราชุมชน สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น รองรับนโยบายซอล์ฟพาวเวอร์ กระตุ้นการท่องเที่ยว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมสรรพสามิต ปรับนโยบายแนวทางจัดเก็บภาษี หลังกระแสความนิยมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามติน้ำมันจากเดิมมีสัดส่วนร้อยละ 60 ของภาษีทั้งหมดของกรมสรรพสามิตจะค่อยๆ ลดลงและหดหายไป จึงมีนโยบาย “สรรพสามิต หัวหอก นำเศรษฐกิจสีเขียว” ด้วยการใช้ภาษีสรรพสามิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น การจัดเก็บภาษีความเค็ม ความหวาน จากอาหาร หรือขนม เครื่องดื่ม เพื่อดูแลสุขภาพ ช่วงที่ผ่านมาเก็บภาษีความหวาน ทำให้ผู้บริโภคลดอาหาร เครื่องดื่มความหวานลดลง จึงเดินหน้าพิจารณาจัดเก็บภาษีจากความเค็มเพิ่มเติม กระทรวงการคลังยังส่งเสริมการจัดเก็บ ภาษี Carbon Tax จากผู้ประกอบการ หากสินค้าใดปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่อากาศจำนวนมาก จะเก็บภาษีมากขึ้น หากสินค้าใดช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยรักษ์โลก สอดคล้องกับกระแสโลก จะเก็บภาษีลดลง รัฐบาลเตรียมเพิ่มเก็บภาษีเฟสแรก ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แบ่งจัดเก็บเป็นแบบ ภาคสมัครใจ และภาคบังคับ ยืนยันประชาชน ผู้บริโภคทั่วไปไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อรองรับกระแสโลกยุคใหม่ดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดเก็บภาษีในรูปแบบใหม่
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การใช้มาตรการภาษีสรรพสามิต Carbon Tax เพื่อรองรับกระแสโลกยุคใหม่ เตรียมใช้นโยบายดังกล่าว เป็นประเทศที่ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ กรมสรรพสามิตสามารถออกมาตรการได้ ไม่ต้องยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อส่งเสริมให้อุตสหากรรมดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลสุขภาพผู้บริโภค เนื่องจากกลุ่มยุโรป เตรียมเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจาก CBAM ประมาณ 80 ยูโร/ตันคาร์บอน จากสินค้าที่ใช้วัตถุดิบจากเหล็ก อะลูมิเนียม ปุ๋ย
รวมถึงการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โรงงานแบตเตอรี่ ธุรกิจรีไซเคิ้ล ในประเทศ หากอุตสาหกรรมใดลดกการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะปรับลดภาษี เพื่อส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น เดิมเก็บภาษีตามกระบอกสูบ (CC) เปลี่ยนมาเป็น รถปล่อยควันจำนวนมากเก็บภาษีสูงขึ้น หากเป็นรถไฟฟ้า เก็บภาษีน้อยลง เพื่อหวังใช้ภาษีเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เนื่องจากรถไฟฟ้าเติมโตสูงมาก รถใช้น้ำมันจะลดน้อยลง เห็นได้จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาลงนาม MOU กับกรมสรรพสามิตผ่านมาตรการของรัฐ ทำให้มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 66 จำนวน 76,000 คัน อนาคตจึงใช้นโยบายภาษีดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นกลไกส่งเสริมภาคเอกชน
นายจุลพันธ์ ยังมอบหมายให้ กรมสรรพสามิตศึกษาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบาย ครม.เศรษฐกิจ เบื้องต้น มุ่งขับเคลื่อนนโยบายสุราชุมชน ผลักดันการแก้ไขกฎหมาย โดยแบ่งกลุ่มตามขนาดการผลิต ทั้งผู้ผลิตสุรา รายใหญ่ เอกชนระดับกลาง และสุราชุมชม เพื่อใช้เป็นอีกกลไกรองรับนโยบายซอล์ฟเพาวร์ของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว สุราชุมชน จึงมีโอกาสสร้างรายได้ในท้องถิ่น ขณะนี้มีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับค้างอยู่ในสภา จึงเป็นเรื่องทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาชุมชน.-515- สำนักข่าวไทย