คลังจ่อปรับลดภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง กระตุ้นอสังหาฯ ลดภาระประชาชน

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- “เผ่าภูมิ” เผยเตรียมปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ชี้ภาษีต้องไม่ซ้ำเติมประชาชนในช่วงเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ ย้ำแบงก์ไทยเข้มงวดปล่อยสินเชื่อเกินไปจนไม่ช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “อสังหาริมทรัพย์ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี2024” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อเรื่อง “นโยบายภาครัฐต่อการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์” โดยระบุว่าภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย ด้านซัพพลาย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไตรมาส 4 ปี 2566 ถึง 7.7% แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด อยู่ 2.7% เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ปรับลดการขอใบอนุญาต ส่วนดีมานด์ มียอดโอนกรรมสิทธิช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 ปรับตัวลดลง 4.2% แต่หากดูยอดขายช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 24% โดยเห็นสัญญาณเชิงบวกจากการปรับตัวของทั้งผู้ประกอบการและความต้องการของภาคประชาชนมากขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าปีนี้จะเห็นซัพพลายที่เกินตลาดลดน้อยลง และความต้องการซื้อของภาคประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ส่วนแนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการภาครัฐ การปรับตัวของผู้ประกอบการและภาคเอกชน แต่ยังต้องเฝ้าระวังสัญญาณเศรษฐกิจจากทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ อัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ สะท้อนกำลังซื้อของประชาชนที่ยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่บั่นทอนกำลังซื้อในประเทศ ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลมุ่งรักษาเสถียรภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบหลายด้าน แต่ย้ำว่าต้องไม่กระทบศักยภาพในการพัฒนา


“การปรับปรุงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่มองว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังขยายตัวไม่ดีนัก และยังอ่อนแอดังนั้นอัตราภาษีไม่ว่าจะเป็นภาษีที่ดินฯ หรือภาษีอื่นๆ อะไรที่ปรับก็ต้องปรับ อะไรที่ควรเพิ่มเติมก็ต้องเพิ่ม แต่ภาษีต้องไม่เป็นภาระและซ้ำเติมประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจด้วย” นายเผ่าภูมิ กล่าว

โดยในปี 2567 รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นมาตรการด้านภาษี และมาตรการเงิน โดยมาตรการด้านภาษี ประกอบด้วย 5 มาตรการ ได้แก่
1.ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยกู้ยืม สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อบรรเทาภาระของผู้มีเงินได้
2.การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ร้อยละ 90 ของภาษีที่ต้องเสียให้แก่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ไม่เกิน 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้ประกอบการระหว่างการก่อสร้าง

  1. การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับทรัพย์ส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน และกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
    4.การขยายเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในปี 2567 เป็นการทั่วไปออกไปอีก 2 เดือน
  2. มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ลดค่าจดทะเบียนการโอนจากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ที่จดทะเบียนในปี 2567

มาตรการทางการเงิน ประกอบด้วย 2 มาตรการ


  1. โครงการบ้านล้านหลัง สนับสนุนประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรน วงเงิน 20,000 ล้านบาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี
    2.โครงการสินเชื่อ Happy Life สนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง วงเงินกู้ต่อรายตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 2.98 ต่อปี ดอกเบี้ยต่ำที่สุดในปีแรกที่ร้อยละ 1.95 ต่อปี

นายเผ่าภูมิ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีภาคอสังหาฯเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่ออายุมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(LTV) ที่หมดอายุไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2565 นั้น คลังก็ได้มีการหารือในเรื่องหนี้กับ ธปท.อย่างต่อเนื่อง แม้ขณะนี้ ธปท.ยังไม่เห็นด้วย แต่คลังก็จะหารือต่อไป รวมถึงมาตรการทางสินเชื่อของสถาบันการเงินด้วย เพราะมองว่าต้องมีมาตรการเพื่อมาสนับสนุนภาคอสังหาฯ ของไทยให้ขยายตัวต่อไปได้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เราไม่สามารถมองในมิติเดียวว่า การปล่อยสินเชื่อประชาชนจะไปก่อหนี้ หรือจะทำให้ระดับหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองในแง่ผลบวกต่อเศรษฐกิจด้วย ซึ่งเรามีความจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญต่อการระมัดระวังความเสี่ยง แต่จะต้องไม่ไปกระทบการเติบโต หรือการพัฒนาของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันทางการเงิน ไม่ใช่แค่ปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นปัญหาของภาพรวมเศรษฐกิจไทยด้วย ภาคสถาบันการเงินของไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ยังไม่ใช่กลไกการผลักดันเศรษฐกิจที่ดีพอ จึงต้องมีการพัฒนาการเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าสินเชื่อและแหล่งเงินทุนมากขึ้น โดยต้องหาจุดสมดุลระหว่างเสถียรภาพ กับศักยภาพเศรษฐกิจ ที่ปัจจุบันมองว่ายังไม่สมดุลกัน เพราะยังอิงเสถียรภาพมากกว่าศักยภาพมากเกินไป

ส่วนสถานการณ์ที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวนมากนั้น รัฐบาลก็เห็นว่า เป็นอีกหนึ่งปัญหาของประเทศไทย โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงโควิด ที่ซัพพลาย ทั้งในแนวราบ และแนวสูง ที่มีจำนวนเหลือขายค่อยข้างสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ได้ดี ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อ ซึ่งตอนนี้เรื่องของซัพพลายก็มีการปรับตัวมากขึ้น เมื่อซัพพลายเดิมยังมีอยู่ ก็ต้องปรับซัพพลายใหม่ให้ลดลงเพื่อเกิดความสมดุลกับกำลังซื้อที่แท้จริงของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐไม่ควรไปแตะกลไกตลาด ระหว่างการปรับตัวของซัพพลายกับดีมานด์ เพื่อให้ขยายตัวเท่ากัน ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ รัฐเพียงช่วยอำนวยความสะดวกให้กลไกลเหล่านี้ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการทางภาษี เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน และมีมาตรการทางการเงินเพื่อเข้าไปช่วยประชาชน.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]