แบงก์เข้มอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ฉุดยอดผลิต-ขายในประเทศ

กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เผยแบงก์เข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ฉุดยอดผลิต-ขายในประเทศ


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม มีทั้งสิ้น 142,102 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 12.46 เนื่องจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงร้อยละ 33.62 จากการผลิตรถกระบะลดลงถึงร้อยละ 50.89 ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงร้อยละ 14.68 จากรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าที่มียอดจดทะเบียนเดือนมกราคม 2567 จำนวน 13,314 คัน ในขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมี 652 คัน

โดยเดือนมกราคม ผลิตรถยนต์นั่งได้ 52,509 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 7.27 แบ่งเป็น


  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine จำนวน 32,655 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 95
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 652 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 9,214.29
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 401 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 70
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 18,801 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 63

ส่วนรถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 86,788 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 16.02

การผลิตเพื่อส่งออกเดือนมกราคม ผลิตได้ 95,110 คัน เท่ากับร้อยละ 66.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 3.91 รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,589 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 0.63 และรถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 67,521 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 5.31

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ผลิตได้ 46,992 คัน เท่ากับร้อยละ 33.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 33.62 โดยรถยนต์นั่ง มีการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,920 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 14.68 ส่วนรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 19,267 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 50.89


ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 54,814 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 16.42 เพราะรถกระบะมียอดขายแค่ 14,864 คัน ลดลงถึงร้อยละ 43.47 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงมาก รถ PPV มียอดขายลดลงร้อยละ 43.86 เพราะยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมา ประกอบกับมีรถ SUV แบบ Hybrid ออกใหม่ในราคาจับต้องได้มาเอาส่วนแบ่งตลาดไป และรถบรรทุกขายลดลงร้อยละ 32.01 จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าออกไปหลายเดือน ทำให้การลงทุน การใช้จ่าย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล่าช้าไปด้วย เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในระดับต่ำตั้งแต่ไตรมาสสี่ปี 2566 แยกเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 34,364 คัน เท่ากับร้อยละ 62.69 ของยอดขายทั้งหมด  เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 11.59

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 14,373 คัน เท่ากับร้อยละ 22 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 32.81
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 9,763 คัน เท่ากับร้อยละ 81 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 205.48
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 98 คัน เท่ากับร้อยละ 18 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 67.66
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,130 คัน เท่ากับร้อยละ48 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 71.52 รถกระบะมีจำนวน 14,864 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 43.47 รถ PPV มีจำนวน 3,074 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 43.86 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,079 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 32.01 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,433 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 0.56 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 154,003 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 16.34 และลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 3.30

การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปส่งออกได้ 86,716 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 ร้อยละ 3.97 และลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 0.08 เพราะส่งออกได้เพียงร้อยละ 91.17 ของยอดผลิตเพื่อส่งออก เพราะเรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอจึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาเหนือ แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 81,763 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 4.85 ส่งออกรถยนต์ HEV 4,953 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 478.62 มูลค่าการส่งออก 60,567.43 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 14.99 อย่างไรก็ตามการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ยังเพิ่มขึ้น รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 79,633.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 14.25
 
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม จดทะเบียนใหม่ 15,943 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 238.71 ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,143 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 83.99 และยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 940 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 2.19 ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 มียานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 147,743 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 301.75

“ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 67 รวมอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.17% แยกเป็นผลิตเพื่อการส่งออกที่ 1.15ล้านคัน และการผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน เพราะคาดหวังจากงบประมาณปี 67 ที่จะออกมาและคิดว่ารถบรรทุกจะกลับมาขายดีในช่วงนี้” นายสุรพงษ์ กล่าว-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

ตร.ค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ เปิดบริษัท เบื้องหลังฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพักหรูย่านราชพฤกษ์ พบมีการเปิดเป็นบริษัทอำพราง เบื้องหลังใช้ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวแนะนำ

ขวัญใจสวนเสือพัทยา “สุดเขต” ลูกเสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊ว

น้องสุดเขต เสือโคร่งสีทองหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก กลายเป็นขวัญใจดวงใหม่ “หน้าแบ๊ว ขี้เล่น” อายุเพียง 11 เดือน

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ

ทักษิณนอนชั้น14

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง ปมเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14

ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง “รมว.ยุติธรรม-ราชทัณฑ์” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 เหตุข้อเท็จจริง-หลักฐานยังห่างไกลว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพ