นนทบุรี 14 ก.พ.-รัฐมนตรีพาณิชย์ หารือทูตทาจิกิสถาน ชูนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย กระชับสัมพันธ์ทุกมิติ เน้นการค้าต่างประเทศ ใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ดันส่งออก ทั้งกระดาษ น้ำตาล และข้าว พร้อมชวนภาคธุรกิจร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าและลงทุนใน EEC เล็งเป็นประตูการค้าเชื่อมเอเชียกลาง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือกับนายอัรดะชีร เกาะดีรี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานประจำประเทศไทย โดยทาจิกิสถานแม้จะเป็นตลาดใหม่ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทยไม่มากนัก แต่มีโอกาสขยายตัวในอนาคต และสามารถเป็นประตูขยายการค้าไปประเทศเอเชียกลาง อาทิ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน โดยไทยพร้อมส่งออกสินค้าที่ทาจิกิสถานต้องการนำเข้าสูง ได้แก่ กระดาษ น้ำตาล และข้าว ขณะที่ทาจิกิสถานเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย และสามารถเป็นแหล่งนำเข้าวัตถุดิบที่สำคัญต่อการผลิตของไทย อาทิ สินค้าฝ้าย ทองคำ เงิน และอลูมิเนียม
อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ย้ำถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยในการกระชับความสัมพันธ์ในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้ากับต่างประเทศ ทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก และผลักดันการส่งออก ซึ่งการเพิ่มพูนการค้าและความร่วมมือระหว่างไทยกับทาจิกิสถาน จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของแต่ละฝ่ายท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งในโลกปัจจุบัน นอกจากนี้ ได้เชิญชวนภาคธุรกิจของทาจิกิสถานเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ อาทิ งานแสดงสินค้านานาชาติ กิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ และการลงทุนภายใต้โครงการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายการค้าและการลงทุนในอาเซียน ทั้งนี้ ทาจิกิสถานได้แจ้งว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของไทยและภูมิภาคอาเซียน จึงมีแผนจะก่อตั้งสถานเอกอัครราชทูตทาจิกิสถาน ณ กรุงเทพฯ ในปี 2569 พร้อมทั้งเชิญชวนให้องค์การคลังสินค้าพิจารณาจัดตั้งคลังสินค้า (Cross Border Warehouse) ในทาจิกิสถาน เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าโดยตรงจากไทย และการกระจายสินค้าไทยในภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ ทาจิกิสถาน เป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของไทย ในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับทาจิกิสถาน มีมูลค่า 3.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ กระดาษและผลิตภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป ตู้เย็น และตู้แช่แข็ง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ฝ้าย และอลูมิเนียม เป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย