กรุงเทพฯ 19 ม.ค. -สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เจตนาเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ บิดเบือนข้อมูลสร้างความเข้าใจผิด กรณีเติมน้ำมันเผื่อเหลือเผื่อขาดตามหลักเกณฑ์รัฐ
นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ในฐานะผู้สมาคมการค้าที่ผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ผู้ประกอบกิจการเป็นผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้แจ้งความกับผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเทคโนโลยี ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เจตนาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนความจริง และหมิ่นประมาทสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น หรือ ปั๊ม ปตท. ผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีสาระสำคัญว่า
ตามที่ปรากฏว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคล หรือ ผู้ใช้งานบัญชี TikTok, Facebook, X (Twiiter) และ YouTube ได้เผยแพร่โฆษณาข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่อง สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เติมน้ำมันไม่เต็มลิตร ว่าเป็นการเจตนาโกง รวมถึงมีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือบิดเบือนข้อมูลโดยมุ่งให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ในภาพรวมให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่า “ ปั๊ม ปตท. มีเจตนาโกงประชาชน” ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมิเตอร์การจ่ายน้ำมันของทุกสถานีบริการน้ำมันจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทุกปั๊ม ทุกแบรนด์ เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ถูกต้องตามมาตรฐานเสมอ เจ้าของสถานีบริการน้ำมันไม่สามารถปรับมิเตอร์การจ่ายน้ำมันเองได้ มีความผิดตามกฎหมาย ดังนั้น ข้อความที่ระบุว่า “ปั๊ม ปตท. จ่ายน้ำมันไม่เต็มลิตร มีเจตนาโกงประชาชน “ จึงไม่เป็นความจริง
สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย จึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานของผู้มีเจตนาสร้างข้อมูลเท็จและเผยแพร่ไปยังช่องทางต่าง ๆ ทางสื่อออนไลน์ เพื่อแจ้งความและดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่กระทำการใส่ความและบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ผู้ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน และวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการในสถานีบริการได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐได้ออกมาชี้แจงและยืนยันข้อเท็จจริงที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องทางสื่อต่าง ๆ หลายช่องทาง แต่ยังปรากฏการเผยแพร่และการนำเสนอข่าวเท็จและข่าวที่บิดเบือน สร้างความเดือดร้อน เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำลายความไว้วางใจ สร้างความเกลียดชังต่อผู้ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ตลอดจนชุมชนและผู้ประกอบการต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาใช้พื้นที่ในสถานีบริการ จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมายและเพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายขยายวงกว้างต่อไป. -511-สำนักข่าวไทย