กรุงเทพฯ 12 ม.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมหารือซาอุฯ ขยายความร่วมมือด้านแร่ พร้อมชวนลงทุนโพแทช
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เข้าหารือกับนายบันดาร์ อัลกอราเยฟ (H.E. Mr. Bandar bin Ibrahim Alkhorayef) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณี และนายคาร์ลิล บินซามัต (H.E. Mr. Khalil Binslmah) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณี ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ภายหลังการเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีในงาน Future Minerals Forum 2024 ณ กรุงริยาด โดยมีหัวข้อหลักในการสนทนาเพื่อชักชวนให้ซาอุดีอาระเบียมาลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่โพแทชของไทย
นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เปิดเผยว่า ประเด็นที่ฝ่ายไทยหยิบยกมาหารือ ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการลงทุนเกี่ยวกับแร่โพแทชและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ปุ๋ย โดยประเทศไทยมีแหล่งแร่โพแทชขนาดใหญ่ มีปริมาณสำรองจำนวนมาก ปัจจุบันได้มีการอนุญาตประทานบัตรให้ทำเหมืองไปแล้วจำนวน 3 ราย คาดการณ์ว่าจะเริ่มผลิตได้ในอีก 3-4 ปี มีกำลังการผลิตโพแทชประมาณรวมกว่า 3 ล้านตันต่อปี ตลอดอายุโครงการจะสามารถผลิตแร่โพแทชได้มากถึง 100 ล้านตัน ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ผลิตหลักของปุ๋ยยูเรีย (N) และฟอสเฟต (P) จึงมีความเป็นไปได้ในความร่วมมือเพื่อการลงทุนผลิตปุ๋ยร่วมกัน นอกจากนี้ ไทยพร้อมต่อยอดความร่วมมือทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแร่ในสิ่งที่ริเริ่มในเวที Future Minerals Forum (FMF2024) ในการพัฒนากรอบยุทธศาสตร์แร่ที่สำคัญในพหุภูมิภาคสร้างศูนย์กลางโลหะสีเขียวด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศในพหุภูมิภาค โดยไทยพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือดังกล่าว
“ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณีของซาอุดีอาระเบีย ยืนยันว่าพร้อมจะขยายความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในทุกมิติที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่าง ๆ นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยังมองว่าประเทศไทยเป็นแหล่งความมั่นคงด้านอาหารและยาเวชภัณฑ์ ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างความมั่นคงในด้านนี้ร่วมกันได้ พร้อมทั้งรับจะนำเรื่องโพแทชที่ได้รับในการหารือไปเชิญชวนภาคเอกชนของซาอุดีอาระเบียที่สนใจ เช่น MA’ADEN Manara Minerals เข้ามาร่วมลงทุน ทั้งนี้ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด มีแผนงานในการพานักธุรกิจและผู้ประกอบการของซาอุดีอาระเบียไปศึกษาดูงานในกลุ่มธุรกิจที่สนใจในประเทศไทยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรม การค้า และการลงทุนระหว่างกัน” นายอดิทัตฯ กล่าว.-517-สำนักข่าวไทย