ชี้โอกาส “ตลาดส่งออก” ปีมังกร โตตามตลาดโลกฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.- EXIM BANK ชี้โอกาส “ตลาดส่งออก” ปีมังกร โตตามตลาดโลกฟื้นตัว หนุนการส่งออกไทยปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 4


ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) รายงายว่า ปี 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะผู้ส่งออกไทยที่ต้องเผชิญกับบรรยากาศการค้าโลกที่ไม่ค่อยสดใสนัก กดดันให้การส่งออกไทยทั้งปี 2566 มีแนวโน้มหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ราว 1-2% อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณแห่งความหวังมากขึ้น หลังตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2566 กลับมาขยายตัว 4 เดือนติดต่อกัน โดย EXIM BANK คาดว่า โมเมนตัมเชิงบวกดังกล่าวจะยังมีต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนให้การส่งออกของไทยปี 2567 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ราว 4% ตามการค้าโลกที่ฟื้นตัว

ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า ปริมาณการค้าสินค้าโลกปี 2567 จะขยายตัว 3.2% หลังหดตัว 0.3% ในปี 2566 ทั้งนี้ จากโอกาสการส่งออกปี 2567 ที่เปิดกว้างมากขึ้น EXIM BANK ขอนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ส่งออกไทยสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น “ตลาดใหญ่” ตลาดที่มีประชากรมากที่สุดในโลกตลาดใหญ่ โดยเฉพาะตลาดอินเดียและจีน มีประชากรรวมกันกว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลก ข้อมูลล่าสุดจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ชี้ว่า ปัจจุบันอินเดียมีประชากรราว 1,429 ล้านคน มากกว่าจีนที่มี 1,426 ล้านคน ซึ่งไม่เพียงแต่แซงจีนในแง่จำนวนประชากรเท่านั้น แต่ยังแซงจีนในแง่ GDP Growth ที่สูงสุดในกลุ่มประเทศ G20 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปี 2566-2567 เกิน 6% แถมเป็นหนึ่งในประเทศที่เนื้อหอมที่สุดในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ


โดยเม็ดเงิน FDI Inflow ย้อนหลัง 10 ปี (ปี 2557-2566) ของอินเดียโตเฉลี่ยถึง 8% ต่อปี เทียบกับโลกที่โตเฉลี่ยเพียง 3% จากนโยบาย Make in India ของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ทำให้เขายังเป็นเต็งหนึ่งที่จะชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤษภาคม 2567 ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายและสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยหลายรายการ โดยเฉพาะสินค้าขั้นกลางที่สอดรับกับ Supply Chain ใหม่ ๆ ที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในอินเดีย อาทิ ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร ซึ่งล้วนเป็นสินค้าส่งออกของไทยไปอินเดียเติบโต Double Digits ในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกไทยไม่ควรจะมองข้ามตลาดจีนไปเลย เพราะแม้เศรษฐกิจจีนในภาพรวมจะขยายตัว 4-5% ชะลอลงกว่าในอดีตที่เคยขยายตัว 7-8% แต่ด้วย Exposure ของไทยกับจีนที่มีค่อนข้างสูงทั้งในมิติการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ล่าสุดหากพิจารณาตัวเลข FDI Inflow 3 ไตรมาสแรกปี 2566 พบว่า นักลงทุนจีนกลายมาเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ในไทยอีกครั้ง และมีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 120% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มทยอยกลับมาก็ยังถือเป็นโอกาสส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด อาทิ ผลไม้ อาหาร ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอาง เครื่องใช้ในบ้าน เป็นต้น

“ตลาดโต” ตลาดใหม่ในหลายภูมิภาคที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นแม้ภาพรวมการส่งออกไทยปี 2566 จะมีแนวโน้มหดตัว 1-2% แต่ก็ยังมีตลาดใหม่ในหลายภูมิภาคที่นับว่าโตได้อย่างโดดเด่น เช่น ตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียที่กลับมาสานสัมพันธ์กับไทยอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 2565 ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยหนุนให้การส่งออกของไทยไปซาอุดีอาระเบียขยายตัวเฉลี่ยเกือบ 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดอเมริกากลางมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะเม็กซิโกที่เป็นฐานการผลิตสำคัญอันดับ 1 ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และสิ่งทอ อีกทั้งการมีข้อตกลงการค้าเสรี CAFTA-DR ทำให้ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้ภูมิภาคนี้เป็น Springboard ส่งต่อไปยังตลาดสหรัฐฯ และแคนาดาได้อีกทางหนึ่ง ตลาดเอเชียกลางประกอบด้วยคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างดีเฉลี่ยราว 4% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2567-2571) และมีจุดเด่นจากการเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของโลก


อีกทั้งความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเอเชียกับยุโรป ทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้มี Potential ที่จะเติบโตต่อเนื่องได้ไม่ยาก นอกจากนี้ ยังมีตลาดแอฟริกา สินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการจากความกังวลเรื่อง Food Security สะท้อนได้จากสินค้าส่งออกไทยหลายรายการเติบโตสูง อาทิ ข้าว (11 เดือนแรกขยายตัว 30%) ผลไม้กระป๋อง (22%) เป็นต้น รวมถึงสินค้าขั้นกลางที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้ โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตการลงทุนหลักของภูมิภาคนี้

“ตลาดรวย” ตลาดหลักที่มีกำลังซื้อสูงตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น มี Impact ต่อการส่งออกไทยสูงสุดด้วยสัดส่วนรวมกันกว่า 1 ใน 3 ของส่งออกรวม แม้หลายฝ่ายจะคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จะชะลอลงในปี 2567 แต่ก็ไม่ถึงขั้น Recession เป็นเพียงการชะลอแบบ Soft Landing ประกอบกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และยุโรปชะลอลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 3.1% และ 2.4% ตามลำดับ ขณะที่ Dot Plot ล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2566 ของ Fed ชี้ว่ามีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 3 ครั้ง ภายในปี 2567 อีกทั้งเป็นปีที่สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน 2567 ก็มักจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา สิ่งเหล่านี้จะช่วยบรรเทาต้นทุนทางการเงินและหนุนกำลังซื้อชาวอเมริกันให้ไปต่อ

ในส่วนของญี่ปุ่น แม้หลายฝ่ายคาดว่าจะมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากติดลบมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี แต่ก็ยังถือเป็นประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในโลก และหากมองอีกมุมหนึ่ง การปรับดอกเบี้ยขึ้นดังกล่าวอาจสะท้อนว่าญี่ปุ่นกำลังจะหลุดพ้นภาวะเงินฝืดที่กัดกินเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เติบโตเฉลี่ยไม่ถึง 1% มาอย่างยาวนาน สิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนถึงโอกาสใน 3 ตลาดดังกล่าวที่ยังมีอยู่และต้องรักษาไว้ แต่ผู้ส่งออกต้องสร้างจุดเด่น Embed กระแสนิยมใหม่ ๆ เข้าไป โดยเฉพาะกระแสรักษ์โลกที่สอดรับกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมในตลาดเหล่านี้ซึ่งจะเข้มงวดมากขึ้นทั้งมาตรการ CBAM EUDR CCA เป็นต้น

“ตลาดใกล้” ตลาดเพื่อนบ้านอย่างอาเซียนแม้การส่งออกของไทยไปตลาดนี้ในปี 2566 จะดูไม่สดใสนัก สะท้อนได้จากมูลค่าส่งออก 11 เดือนแรกหดตัว 8% จากปัจจัยด้านราคาที่ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง เหล็ก เป็นต้น แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าภูมิภาคอาเซียนยังมีเศรษฐกิจที่เติบโตได้เฉลี่ย 4-5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นภูมิภาคที่ได้อานิสงส์มากที่สุดจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Decoupling สะท้อนได้จากมูลค่า FDI Inflow ในภูมิภาคนี้เติบโตเฉลี่ย 20% ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ซึ่งการที่ไทยมี Strategic Location ที่เป็นไข่แดงของภูมิภาคก็ถือเป็นความได้เปรียบที่จะสร้างโอกาสการค้าการลงทุนได้อีกมาก

โดยเฉพาะในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่มีการเชื่อมโยง Supply Chain กับไทยในหลายอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้ก็มีวัฒนธรรมคล้ายไทยและยังได้รับอิทธิพล Soft Power จากไทยค่อนข้างมาก ก็ถือเป็นแรงส่งสำคัญที่จะช่วยหนุนการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องได้ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค
ถึงเวลาที่ผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อเจาะและกระจายตลาดส่งออกอย่างสมดุล ควบคู่ไปกับกลยุทธ์เชิงรับในการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างครบวงจรเพื่อก้าวออกไปคว้าโอกาสใหม่ ๆ บนเวทีการค้าโลกที่เปิดกว้างมากขึ้นในปีมังกรกำลังจะมาถึง.-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]