กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ เป็นประธานประชุม Fruit Board ติดตามสถานการณ์การผลิตและข้อมูลพยากรณ์ไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2568 พบว่า มีแนวโน้มผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของไม้ผล สั่งคุมเข้มมาตรฐานผลไม้ส่งออกผลไม้ ย้ำ Lab ตรวจ BY2 เพียงพอให้บริการช่วงฤดูกาลผลิตทุเรียน พร้อมเร่งขยายตลาดส่งออกลำไยสดไปฟิลิปปินส์
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตและข้อมูลพยากรณ์ไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2568 ประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง พบว่ามีแนวโน้มผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของไม้ผล ในขณะที่สถานการณ์ประมาณการไม้ผลภาคเหนือ ปี 2568 พบว่า ผลผลิตลำไยภาคเหนือจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนสิงหาคม ประมาณร้อยละ 38.63 และผลผลิตลิ้นจี่ภาคเหนือจะออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม ประมาณร้อยละ 60.80
ระยะนี้ผลไม้ไทยใกล้จะออกผลผลิต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเตรียมความพร้อมในการเจรจาเปิดตลาดใหม่เพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผลผลิตของเกษตรกรและลดผลกระทบจากการกระจุกตัวของสินค้าเกษตร
นอกจากภารกิจด้านการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังให้ความสำคัญต่อการศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาสายพันธุ์พืชมูลค่าเกษตรสูง เพื่อให้เกษตรกรมีต้นพันธุ์ที่มีความแข็งแรง ต้านทานโรค และยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร
ที่ประชุม Fruit Board ยังติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผลไม้ส่งออกของประเทศไทย 3 ชนิด ประกอบด้วย ทุเรียน ลำไย และมะม่วง ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ประกาศใช้มาตรการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผลไม้ เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในสินค้าเกษตรส่งออกประกอบด้วย มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันในกระบวนการผลิต มาตรการตรวจสอบสารเคมีตกค้างและศัตรูพืช ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ประเทศคู่ค้ากำหนด ตลอดจนมาตรการ Big Cleaning เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารเคมีในสินค้าทุเรียนและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวย้ำว่า ในส่วนของสินค้าทุเรียนส่งออก ปัจจุบันเรามีห้องปฏิบัติการทดสอบสาร BY2 แล้ว 13 ห้อง โดยจะสามารถทดสอบตัวอย่างได้วันละ 3,000 ตัวอย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับปริมาณทุเรียนที่จะต้องตรวจก่อนส่งออก ในส่วนของลำไย ได้มีการเจรจาเปิดตลาดการส่งออกผลลำไยสดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด โดยได้กำชับทุกภาคส่วนให้ทำตามมาตรการที่กำหนดเพื่อรักษามาตรฐานและยกระดับสินค้าเกษตรไทยอย่างเคร่งครัด. -512 – สำนักข่าวไทย