“พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษจับตาสินค้า-บริการช่วงเทศกาล

ทำเนียบฯ 29 พ.ย. – “พวงเพ็ชร” สั่ง สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ จับตาสินค้า-บริการ ถูกและดีอาจไม่มีจริง เหตุประชาชนจับจ่ายสูงช่วงเทศกาลปีใหม่อาจตกเป็นเหยื่อเพิ่ม


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 8/2566 ที่ประชุมได้รายงานผลการรับเรื่องร้องทุกข์และช่วยเหลือประชาชน โดยพบว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (พ.ค.-ต.ค.66) มีการร้องทุกข์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งสิ้น 3,239 เรื่อง โดยเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์มากที่สุด คือ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ จำนวน 967 เรื่อง รองลงมาคือกรณีการจองตั๋วสายการบิน/โรงแรม/บัตรชมการแสดง จำนวน 413 เรื่อง และการเช่าซื้อรถยนต์ จำนวน 335 เรื่อง

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า การซื้อขายออนไลน์เป็นดาบสองคมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งยังเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการหลอกลวง สร้างความเสียหายแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง จึงต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงขอให้ สคบ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เพื่อดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในคดีที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว


“เราต้องมีการปรับโครงสร้างการช่วยเหลือผู้บริโภคครั้งใหญ่ เพื่อให้ สคบ.กระจายอำนาจให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ดำเนินการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชน และเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที และให้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ประชาชนมีการบริโภคสินค้าและบริการจำนวนมาก เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองห้องพัก การจองทัวร์ท่องเที่ยว การซื้อกระเช้าของขวัญ และการซื้อสินค้าออนไลน์ จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลของสินค้าและบริการอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้น อย่าหลงเชื่อเพราะของถูกอาจไม่มีจริง ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ ผู้บริโภคสามารถโทรหาสายด่วน สคบ. 1166 ได้ทันที”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ