วอนภาครัฐทบทวนการดึงน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม

กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – ผู้ผลิตน้ำตาลทรายวอนรัฐทบทวนการดึงน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุมกระทบการส่งออกในภาพรวม จะเกิดปัญหาลักลอบส่งออก ในขณะที่เกษตรกรจะไม่ได้ประโยชน์ ท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่พุ่งขึ้น


นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ระบุฐานราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต้นทุนการผลิตและค่าแรงที่สูงขึ้น ตลอดจนปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรโลก ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง การที่รัฐบาลประกาศควบคุมราคาสินค้าน้ำตาล และดึงกลับจากการค้าเสรี ไปเป็นสินค้าควบคุมการส่งออกมากกว่า 1 ตัน จะต้องมีการแจ้งขออนุญาต จะส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกโดยรวม เนื่องจากทำให้ผู้ซื้อรายใหญ่จากต่างประเทศที่ปกติจะมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เกิดความไม่มั่นใจว่าเมื่อทำสัญญาแล้วภาครัฐจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กฎเกณฑ์อะไรอีกหรือไม่ ในอนาคตผู้ซื้อจะมีการต่อรองราคาลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะต้องขอเข้าพบกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะราคาน้ำตาลไม่เหมือนสินค้าอื่นๆ ที่ปรับราคาแล้วผุ้ประกอบการจะได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว แต่น้ำตาลทรายมีกฎหมายอ้อยและน้ำตาลทรายควบคุม การปรับราคาน้ำตาลทรายจะทำให้ชาวไร่อ้อยได้ประโยชน์ ตามสัดส่วนการแบ่งปันผลประโยชน์ชาวไร่ 70% ส่วนโรงงานได้ 30% นอกจากนี้ จากการที่ราคาขายปลีกในประเทศราคาอยู่ที่ 24-25 บาท/กก. ถูกกว่าต่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่ราคามากกว่า 30 บาท/กก. ก็จะทำให้น้ำตาลไทยถูกลักลอบส่งออก และเกษตรกรไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จึงขอให้ภาครัฐทบทวนมาตรการที่เหมาะสม


ทั้งนี้ กลุ่มโรงงานน้ำตาลทรายฯ ระบุ “ราคาน้ำตาลทราย” ของแต่ละประเทศ มีความแตกต่างกันมาก ตัวอย่างเช่น ฮ่องกง เกิน 100 บาท/กิโลกรัม สูงเป็นอันดับ 1, นอร์เวย์ เกิน 90 บาท/กิโลกรัม สูงเป็นอันดับ 2, เกาหลีใต้ เกิน 60 บาท/กิโลกรัม อันดับ 14, เวียดนาม เกิน 45 บาท/กิโลกรัม อันดับ 45, มาเลเซีย เกิน 37 บาท/กิโลกรัม อันดับ 68, บราซิล เกิน 32 บาท/กิโลกรัม อันดับ 72 เป็นข้อมูลจาก globalproductprices.com เดือนกันยายน 2566

สำหรับราคาน้ำตาลทรายในประเทศไทย ได้ถูกคำนวณไว้ที่ราคา 21 บาท/กิโลกรัม อยู่ที่ลำดับ 80 เป็นรองอันดับสุดท้ายจากการสำรวจ 81 ประเทศ ในเรื่องนี้ มีความสำคัญ เนื่องจากได้เสนอขอปรับราคาน้ำตาลทราย 4 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะช่วงเวลาย้อนหลัง 3 ปี ที่ผ่านมา ต้นทุนการจัดการอ้อย เช่น ราคาปุ๋ยขยับสูงขึ้นมาก ค่าแรงงานภาคเกษตรก็สูงขึ้นมาก แรงงานเกษตรยังหายากเพราะทำงานอื่นมีรายได้มากกว่า เป็นต้น

ประเทศไทย ผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 2 ของโลก แต่พี่น้องชาวไร่อ้อยมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก การขยับขึ้นของราคาน้ำตาลทราย 4 บาท/กิโลกรัม ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ได้ถูกล้มกระดาน ถูกกดทับมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีมาตรการที่ค่อนข้างย้อนแย้งอย่างคาดไม่ถึงแบบเร่งด่วน มีราชกิจจานุเบกษากำหนดให้เพิ่มรายการน้ำตาลเป็นสินค้าควบคุมจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566


การเพิ่มรายการน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม กำหนดราคาขายน้ำตาลทรายมีประเด็นใหญ่ ที่มีความสำคัญ เคยถูกแก้ไขลดความเสี่ยงผ่านการเจรจาต่อรองกับประเทศคู่กรณี เนื่องจากเป็นการแทรกแซงไม่สอดคล้องกับข้อตกลงที่ทำไว้กับองค์กรการค้าโลก WTO อาจเป็นปัญหาตามมาที่จะทำให้สินค้าจากประเทศไทยถูกลงโทษ เกิดข้อพิพาทกับ บราซิล อินเดีย ที่เคยยื่นฟ้องร้องไว้

หากวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการไม่ปรับราคาน้ำตาล 4 บาท/กิโลกรัม ในครั้งนี้ มีความซับซ้อน มีเงินได้เสียจำนวนมาก เช่น กลุ่มทุนธุรกิจอาหารเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ กลุ่มมาเฟียผู้ลักลอบขนน้ำตาลทรายออกนอกประเทศไทยตามชายแดน กลุ่มข้าราชการแสวงหาผลประโยชน์ เป็นต้น เพราะส่วนต่างราคาน้ำตาลต่างประเทศราคาสูงกว่าในประเทศมาก

การประกาศให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม การกดราคาน้ำตาลทรายในประเทศไทยไว้ หากมองจากฉากหน้าและเจตนาที่กล่าวอ้าง เหมือนต้องการช่วยดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบ แต่ความเป็นจริง สถิติย้อนหลังที่มีการสำรวจการบริโภคน้ำตาลของคนไทย จะไม่เกิน 12 กิโลกรัมต่อคนต่อปี การขึ้นราคาน้ำตาล 4 บาทต่อกิโลกรัม จะกระทบรายจ่าย 48 บาทต่อคนต่อปี ประมาณเดือนละ 4 บาท ซึ่งแทบจะไม่มีผลอะไร. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย