“พีระพันธุ์” ย้ำไม่สั่งปลดบอร์ด ปตท. ส่วนผู้ว่าการ กฟผ.ต้องรอบอร์ดใหม่ยืนยัน

กรุงเทพฯ 18 ต.ค.- “พีระพันธุ์” ย้ำไม่สั่งปลดบอร์ด ปตท. ส่วนผู้ว่าการ กฟผ.ต้องรอบอร์ด กฟผ.ชุดใหม่ยืนยัน หลัง กกต.ตีตกไม่เห็นชอบ ยึดหลักทำงาน “มั่นคงเป็นธรรมยั่งยืน” เตรียมออกกฎหมายใหม่ดูแลราคาพลังงานทั้งระบบ ส่วนการประมูลพลังงานทดแทนรอบใหม่ และลงนามพีพีเอรอบเดิมก็ให้เป็นไปตามระเบียบ กกพ. ด้านกัลฟ์แจ้งลงนามพีพีเอพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว 12 โครงการ รวม 649.31 เมกะวัตต์


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไม่ได้สั่งการให้คณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.ปตท.พิจารณาลาออกแต่อย่างใด แม้ว่า มีการกล่าวกันมากว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว นับเป็นมารยาทที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจควรจะลาออก เพื่อให้รัฐบาลคัดสรรบุคคลเข้ามาเป็นบอร์ด เพื่อบริหารงานให้ตรงกับนโยบายรัฐบาลใหม่ก็ตาม ซึ่งการทำงานของ ปตท.นั้น เป็นบริษัท มหาชน การทำงานบางครั้งก็ระบุว่าเป็นเอกชน บางครั้งก็ระบุว่าเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐ ซึ่งก็ไม่สามารถทำงานในการเป็นองค์กรของรัฐที่ดูแลด้านพลังงานได้ตามเป้าหมาย ดังนั้น ตนก็อาจจะพิจารณาว่าน่าจะมีการจัดตั้งองค์กรใหม่มาทำหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ดีหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (19 ต.ค.) จะมีการประชุมบอร์ด ปตท. โดยก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ลาออกจากบอร์ด ปตท.ไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 ในขณะที่บอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลาออกไปทั้งชุดตั้งแต่ 1 ต.ค.66


นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในส่วนตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. ซึ่ง บอร์ด กฟผ. ชุดที่แล้วได้มีการสรรหาและเสนอให้นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีต รมว.พลังงาน ได้เสนอต่อ ครม.วันที่ 2 พ.ค.66 ซึ่งอยู่ระหว่างการเลือกตั้ง ครม.มีมติอนุมัติเห็นชอบแบบมีเงื่อนไข คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเห็นชอบด้วย แต่ กกต.แจ้งกลับมาว่าไม่เห็นชอบ ซึ่งถือว่าจบเรื่องไม่ผ่านความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม นายสุพัฒนพงษ์ก็ต้องการให้ความเป็นธรรม จึงเสนอ ครม.ขอให้ส่งเรื่องให้ กกต.ทบทวนความเห็นอีกรอบ เมื่อ ครม.ส่งเรื่องกลับไป กกต.เรื่องหายเงียบ กกต.ไม่ตอบ จนกระทั่งเลือกตั้งเสร็จ มี ครม.ชุดใหม่ กกต.ทำหนังสือตอบกลับมายังสำนักเลขาธิการ ครม. เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 บอกว่าเรื่องนี้เมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้วก็ไม่อยู่ในกรอบที่ กกต.จะพิจารณาทบทวน ซึ่งก็หมายว่า กกต.ยืนยันความเห็นเดิมคือไม่เห็นชอบ และเมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 สำนักงานเลขาธิการ ครม. แจ้งความเห็นมายังกระทรวงพลังงาน และตนได้รับทราบเป็นหนังสือเมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 จึงหารือกับปลัดกระทรวงพลังงานและทุกฝ่าย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทางกฤษฎีกาฯ แจ้งว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไปเข้าเงื่อนไข มติ ครม.วันที่ 2 พ.ค.66 ที่ ครม.เห็นชอบแบบมีเงื่อนไข กกต.ต้องเห็นชอบ ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องให้ กฟผ.ยืนยันมาใหม่ ว่า ยังเสนอรายชื่อคนเดิมหรือไม่

“ตามกฎหมายแล้ว การสรรหา ผู้ว่าการ กฟผ.ตนไม่เกี่ยวข้อง กระทรวงพลังงานเป็นเพียงพนักงานส่งเอกสาร เอาเรื่องที่เขาสรรหาผู้ว่าการมาแล้วเข้า ครม.ว่าเห็นชอบหรือไม่เท่านั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่เลือก ซึ่งในขณะนี้ก็ต้องรอ บอร์ด กฟผ.ที่ต้องแต่งตั้งใหม่เสนอยืนยันมา” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ในการทำงานของตนจะยึดหลักมั่นคงเป็นธรรมยั่งยืน วางแผนระยะสั้น กลาง ยาว โดยเริ่มต้นจากการลดราคาค่าไฟ ค่าน้ำมันไปแล้ว ในระยะต่อไปก็ต้องมีการออกกฎหมายใหม่มาดูแลราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยในส่วนการเปิดรับซื้อพลังงานทดแทนรอบ 2 อีกว่า 3 พันเมกะวัตต์นั้น ก็ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) ดูในรายละเอียดของข้อเสนอของเอกชน ในขณะที่การลงนามสัญญา (พีพีเอ) ในพลังงานทดแทนรอบแรกกว่า 5 พันเมกะวัตต์ ก็เป็นเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าภายใต้กฎระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็รับทราบว่าศาลปกครองมีการคุ้มครองเรื่องพลังงานลม นอกจากนี้ จากข้อเรียกร้องให้ทบทวนสัญญาพีพีเอ เรื่องค่าความพร้อมจ่ายหากมีข้อมูลเสนอมาก็พร้อมจะพิจารณา


“ผมไม่เคยคิดมาเป็น รมว.พลังงาน แต่ก็จะเดินหน้า มั่นคงเป็นธรรมยั่งยืน ส่วนเรื่องที่เป็นแผนงานเดิม ซึ่งการประกาศมาตรฐานใหม่ ยูโร 5 ที่ต้นทุนน้ำมันจะแพงขึ้นอีก 15 สตางค์/ลิตร เริ่ม 1 ม.ค.67 นั้นจะทบทวนหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องทำร่วมกันทั้งหมด ทั้งรถควันดำและอื่น ๆ เพราะหากประกาศแค่โรงกลั่นฯ อย่างอื่น ๆ ไม่ร่วมก็ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนพื้นที่ทับซ้อนปิโตรเลียมไทย-กัมพูชา ก็ต้องมีการพูดคุย แต่คงไม่เอาเรื่องเส้นเขตแดน 2 ประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่เช่นนั้นคงไม่จบ ก็คงจะดูว่าในการพัฒนาร่วมกันนั้นจะเริ่มจากความร่วมมือการนำปิโตรเลียมมาก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรก่อน” รมว.พลังงาน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในระหว่างการพบสื่อสายพลังงาน นายพีระพันธ์ ระบุว่างบฯ กระทรวงพลังงานนั้นน้อยมากแต่ดูงานเรื่องใหญ่ ๆ เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยในส่วนของการตกแต่งบ้านพิบูลธรรม ให้กลับมาเป็นที่ทำงานของ รมว.พลังงาน อีกครั้งได้ใช้งบฯ ส่วนตัวมาใช้ร่วมเป็นส่วนใหญ่และได้ใช้เฟอร์นิเจอร์ส่วนตัวมาใช้ด้วย โดยในงานแถลงข่าวก็ได้ใช้เก้าอี้ไม้ที่มีตราสัญลักษณ์” สาลีรัฐวิภาค” มาใช้เป็นเก้าอี้นั่งนับร้อยตัว พร้อมเปิดเผยว่าแม้จะมีงานยุ่ง แต่ก็มีงานอดิเรกที่สำคัญคือสะสมและเล่นเครื่องบินบังคับวิทยุที่มีถึง 3,000 ลำ

ทั้งนี้ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 กลุ่มบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ในสัดส่วน 100% ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) จำนวนรวม 12 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 649.31 เมกะวัตต์ (MW)และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ระหว่างปี 2567-2568 ซึ่งเป็นส่วนที่ รัฐบาลรับซื้อซื้อพลังงานทดแทนรอบ แรกกว่า 5พันเมกะวัตต์ โดย solar farms)และ solar farms with battery energy storage systems มีอัตราขายไฟฟ้าแบบ FiT ที่ 2.1679 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 2.8331 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงดับสมาชิก อบต.กรงปินัง

ยะลา 23 ก.ย. – เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงสมาชิก อบต.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าบ้านพัก อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจตั้ง 2 ปม “แค้นส่วนตัว-สร้างสถานการณ์” จากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปินัง ขณะจอดรถยนต์กระบะเตรียมเข้าบ้านพักในพื้นที่บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตรวจสอบรอยกระสุนในตัวผู้ตายพบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ (23 ก.ย.) ตำรวจ สภ.กรงปินัง ลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย แต่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมก่อเหตุเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ […]

นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรง สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ทองไทยทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่ เปิดตลาดพุ่งพรวด 550 บาท ทองไทยแตะ 57,300 บาท ตามราคาทองโลกที่นิวไฮต่อเนื่อง นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรงกว่าคาด สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำเปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.04 น. ปรับเพิ่มขึ้นทันที 550 บาท โดยทองแท่ง ราคารับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 55,273.36 ขายออก 57,300 บาท แตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.49 น. ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้ง ทองแท่ง รับซื้อ 56,300 บาท ขายออก 56,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ […]