กรุงเทพฯ 9 ต.ค.-อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้าไทย ระบุแม้ นายกฯ ประกาศเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตเต็มที่ แต่ภาควิชาการก็อยากเห็นเม็ดเงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจทุกระดับให้รอบด้าน ย้ำปีหน้าเจอปัญหาภัยแล้งสูง เอกชนยังกังวลจะกระทบวงกว้าง จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณารายละเอียดแบบครบวงจร
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวว่า จากสัญญาณ ของนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาย้ำชัดเจนแล้วว่า ทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ว่า การใช้เงิน จะเกิดความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ กังวลถึงความคุ้มค่า ซึ่งทางภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ก็อยากให้กันเงินส่วนนึง ประมาณ 1 แสนล้านบาท มาใช้กับการบริหารจัดการน้ำในระยาว เพราะปีหน้า จะเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง รวมไปถึงหน่วยงานภาคเศรษฐกิจ ก็กังวลเรื่องการหมุนของเงิน
ขณะที่ทางฟากฝั่งนักวิชาการ ก็มองเศรษฐกิจไทยขณะนี้ฟื้นตัวแล้ว จากการบริโภคที่โดดเด่นมจึงกังวลว่า การเติมเงินเข้าไปอีกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้น อาจะทำให้เกิดเงินเฟ้อ และ เงินที่นำมาใช้ในโครงการ ที่อาจจะมาจากเงินกู้ จะเป็นตัวเร่งให้ดอกเบี้ยขยับสูงขึ้น ส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน รวมไปถึงวินัยทางการเงินการคลัง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีการส่งสัญญาณอยากให้จำกัดเฉพาะ หรือ ให้เงินเป็นเฟส รอบละ 4,000 บาท 3,000 บาทและ 3,000 บาท เพื่อให้มีเงินหมุนในระบบทั้งปี รวมทั้งควรสนับสนุนการใช้จ่ายเพื่อซื้อของที่ผลิตในประเทศ หรือ ซื้อของที่ต่อยอดในการประกอบอาชีพ จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ และการจ้างงาน อาจจะเพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย