กรุงเทพฯ 21 ก.ย.-หุ้นไทยบวกหลังรับรู้ FED ตรึงดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณจะขึ้นอีก 1 ครั้งปีนี้ ส่วนผลกังวลนโยบายรัฐลดลง ผ่อนคลายความกังวลการก่อหนี้ จิตวิทยาบวกต่อ SET
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) แม้เปิดทำการ. ดัชนีปรับตัวลดลง 3.35 จุด แตะ 1,504.55 จุด แต่มีแรงซื้อ ทำให้ เวลา 11.37 น. ดัชนีกลับมาบวก 2.34 จุด แตะ 1,510.24 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่าจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(FED) มีมติ ตามคาดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุม 20ก.ย.66 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งตั้งแต่ มี.ค.65 และคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) โดยเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ภายในสิ้นปีนี้ เป็นภาพ Higher for longer และมากับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่ง FED มองภาพตัวเอง แบบ Goldilocks เมื่อผสานวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นปลายทาง ดังนั้นระยะสั้น ตลาดปรับฐานขาปลายๆ เน้นตั้งรับ เป็นสภาวะบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นในระยะกลาง
ทั้งนี้ dot plot เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งสู่ระดับ 5.1% ในช่วงสิ้นปี 67 และแตะ 3.9% สิ้นปี 68 /แตะ 2.9% สิ้นปี 69 /คาดดอกเบี้ยระยะยาวที่ 2.5% /คาดเงินเฟ้อ 3.7% ในปีนี้ / และลดลงต่อเนื่อง จน 2569 จะอยู่ที่ระดับ 2.0% ช้ากว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุ การที่เงินเฟ้อของสหรัฐจะกลับสู่เป้าหมายของเฟดนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกนาน ที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐนั้น เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปีนี้จาก 1.0 %สู่ 2.1% ในปีนี้ และขยายตัว 1.5%- 1.8% ใน3ปีถัดไป ข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น /การจ้างงานชะลอตัวลง อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ และจะยังคงปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)อีกด้วย
ส่วนนโยบายที่นักลงทุนกังวลกดดันต่อตลาดหุ้นนั้น จากที่มีรายงาน แหล่งข่าวกระทรวงการคลังยืนยันว่าแหล่งเงินทุนที่จะใช้สำหรับนโยบาย Digital Wallet จะไม่มีการกู้ยืมเพิ่ม และไม่มีผลกระทบต่อหนี้สาธารณะและวินัยการคลัง ก็คาดว่าจะผ่อนคลายความกังวลการก่อหนี้ จิตวิทยาบวกต่อ SET
ส่วนเรื่องการลดค่าไฟฟ้า เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ในงวด ก.ย.-ธ.ค.66 ปรับลดกว่าค่าไฟฟ้า 4.45 บาทที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เป็นผลให้ส่วนต่าง 0.46 บาทต่องให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งรับภาระไปก่อน แม้ยังเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นโรงไฟฟ้า และ PTT แต่น่าจะสะท้อนในหุ้นถูกลดสถานะตั้งแต่มีมติ ครม. ต้นสัปดาห์แล้ว ผสาน กับมองการปรับโครงสร้างอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบเพิ่มเติมยังทำได้จำกัดระยะสั้น เชิงกลยุทธ์ให้เน้นตั้งรับ เน้น PTT, GULF .–สำนักข่าวไทย