ทำเนียบฯ 14 ก.ย.- รัฐบาลทบทวนงบปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ขาดดุลเพิ่ม 1 แสนล้านบาท รองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว่า การประชุมกับหน่วยงานจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ร่วมกับการประชุม 4 หน่วยงานหลักประกอบด้วย สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ประชุมได้ทบทวนกรอบงบประมาณ วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 130,000 ล้านบาท จากเดิม 3.35 ล้านล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2567-2570) ฉบับทบทวน ครม. ชุดปัจจุบันได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท จึงนำไปใช้จ่ายเป็นเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และงบประมาณการขาดดุล เพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท รองรับนโนยายสำคัญของรัฐบาล ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าครองชีพ ของประชาชน
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การทบทวนใหม่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ2566 เดิมวงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท จำนวน 295,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ จำนวน 2.787 ล้านล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 693,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2566 (695,000 ล้านบาท) จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 0.3 ภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจในปี 2567 การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 2.7 – 3.7 และอัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 1.3 – 2.3
โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ยังคงเป็นงบประมาณขาดดุลงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนต่าง ๆ รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 รวมทั้งเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม การสนับสนุนการศึกษาและการพัฒนาแรงงานที่ตรงกับความต้องการของประเทศ
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 สำนักงบประมาณเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากรอบงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 โดยขอให้ทุกกระทรวงทำคำจัดสรรงบประมาณกลับมาให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 6 ต.ค.นี้ และทางสำนักงบประมาณจะขอเวลา พิจารณา 35 วัน ก่อนที่นำเข้าสูที่ประชุมสภา และคาดว่า ทูลเกล้าฯ 17 เม.ย. 67 .-สำนักข่าวไทย