กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – GFC ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากรายแรกใน ตลท. เปิดเทรดวันแรกที่ราคา10.70 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท จากราคา IPO ที่ 7.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 52.86%
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมด้วยทีมคณะผู้บริหาร บริษัท เจเนซีสเฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ“GFC” นำโดย รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท, นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รองประธานกรรมการบริษัท และ นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าร่วมในพิธีเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก ในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใต้กลุ่ม บริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GFC” เปิดเทรดวันแรกที่ราคา 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท จากราคา IPO ที่ 7.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 52.86%
รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ กล่าวว่า GFC ให้บริการที่ครอบคลุม และตอบโจทย์การรักษาภาวะผู้มีบุตรยากสำหรับลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าผู้ที่วางแผนการมีบุตรในอนาคต, กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยที่สนใจอยากมีบุตร, กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยกับชาวต่างชาติที่สนใจอยากมีบุตร และกลุ่มลูกค้าคู่สมรสชาวต่างชาติ ที่สนใจอยากมีบุตร ผ่านธุรกิจการให้บริการ ได้แก่ 1). การให้บริการตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI 3). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI 4). การให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน NGS) และ 5). การให้บริการแช่แข็งไข่และการฝากไขร
จากอัตราผู้เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีแผนระดมทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพ และยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมทุกมิติมากยิ่งขึ้น ผ่านแผนขยายการลงทุนสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 ให้บริการโดยเฉพาะทางการแพทย์ของผู้มีบุตรยาก รวมถึงขยายการลงทุนไปยัง คลินิกสาขาอุบลราชธานี เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ภายในไตรมาส1/2567 รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนการลงทุนในสาขาย่อยอื่น ๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและมีฐานลูกค้าผู้มีบุตรยาก สู่การสร้าง New S-Curve ในอนาคต พร้อมก้าวสู่การยกระดับศูนย์รวมแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำด้านการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัย
สำหรับผลการดำเนินงาน GFC มีอัตราการเติบโตของรายได้โตเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 13.37% โดยกลุ่มบริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการในปี2563 – ปี2565 และงวด 6 เดือนปี 2566 เท่ากับ 214.42 ล้านบาท 242.12 ล้านบาทและ 275.91 ล้านบาท และ 166.95 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับรายได้จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ มาจากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI เป็นรายได้หลัก ขณะที่กำไรสุทธิ ปี 2563-2565 และงวด 6 เดือนปี 2566 เท่ากับ 66.55 ล้านบาท 69.63 ล้านบาท 65.68 ล้านบาท และ 34.33 ล้านบาท ตามลำดับ อีกทั้ง อัตราส่วน ROE และอัตราส่วน ROA สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง72.29%.-สำนักข่าวไทย