กรุงเทพฯ 22 ส.ค. –นักวิชาการนิด้า แนะ รัฐบาลใหม่อัดฉีดเงิน เพิ่มกำลังซื้อ ผ่านจ้างงาน อมรมเติมความรู้ ดูแลคนว่างงาน ตั้งทีมเศรษฐกิจโดดเด่น มีชื่อเสียง สร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดการลงทุน
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการการจัดการ สำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า เมื่อรัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้ว รัฐบาลพรรคผสม ควรจัดตั้งทีมเศรษฐกิจ ที่มีความโดดเด่น เพียงเปิดเผยรายชื่อออกมา นักลงทุน ภาคเอกชน “ต้องร้อง ว้าว” ให้การตอบรับ มีความมั่นใจ น่าเชื่อถือ กล้าตัดสินใจ ปรับแผนการลงทุน ขณะที่ประชาชน มีความมั่นใจกล้าใช้จ่าย เพราะอีกไม่น่าจะมีงานทำ มีรายได้เพิ่ม ทีมเศรษฐกิจ ในยุคเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก
เมื่อจัดตั้งรัฐาลผสมได้แล้ว ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ต้องเร่งประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อน ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ผ่านแผนระยะสั้น ปานกลาง ระยะยาว เพราะหลังจากเลือกตั้งไทยเสียเวลาไปหลายเดือนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ยอมรับว่า นักลงทุนต่างชาติ รอดูความชัดเจนในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างมาก เพราะเมื่อนักลงทุนเชื่อมั่น จะเกิดการลงทุน การจ้างงาน รายได้ส่งไปยังแรงงาน ทำให้รายย่อยมีกำลังซื้อ
สำหรับมาตรการระยะสั้น เสนอการเติมกำลังซื้อให้กับรายย่อย ผ่านการโอนเงิน ที่ไม่ใช่การให้เปล่า เพราะหลายคนยังตกงาน หรือมีรายได้น้อยไม่เหมือนเดิม เมื่อทำโครงการลงทุน จ้างงานในต่างจังหวัด จัดอบรม สัมมนา เติมความรู้ ให้ผลทางอ้อม ยกระดับพัฒนาสินค้า พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยไม่ใช้ให้การให้เงินเปล่า แต่จะเกิดประโยชน์ เพราะรายย่อยจะใช้จ่ายออกไปได้เร็ว อีกทั้งรัฐบาลต้องหาแหล่งเงินกู้ มาใช้ออกมาตรการ เนื่องจากขณะนี้จัดเก็บภาษีได้น้อย เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงใช้เงินงบประมาณไม่ได้ การจัดทำงบประมาณ จึงต้องขาดดุลในช่วงนี้
ส่วนมาตรการระยะปานกลาง คือ การเดินหน้าหาตลาดเพื่อการส่งออกใหม่ๆ เช่น ตะวันอออกกลาง ทดแทนตลาดเดิมเนื่องจากเศรษฐโลกยังชะลอตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งยุโรป จีน มีการใช้จ่ายต่อหัวไม่สูงมากนัก เมื่อเข้ามาท่องเที่ยว ไทยยังต้องเดินหน้าเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป หลังได้เริ่มเจรจาไปแล้ว เพื่อให้เกิดความคืบหน้า ด้านระยะยาว รัฐบาลควรผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ใช้ศักยภาพของไทยในทุกด้าน ดึงดูการลงทุน ทั้งในเขตอีอีซีและด้านอื่นๆ เพราะไทยมีศักยภาพอย่างมากในการดึงดูการลงทุน ขณะนี้รอเพียงความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่.-สำนักข่าวไทย