นักวิชาการชี้ “ก้าวไกล” คะแนนนิยมก้าวกระโดดจากความชัดเจน

นิด้า 3พ.ค.- นักวิชาการชี้ก้าวไกลมีคะแนนนิยมขึ้นแบบก้าวกระโดดเพราะให้ความสำคัญกับเวทีดีเบตสื่อสารนโยบายกับปชช. บวกท่าทีชัดเจน “มีลุง ไม่มีเรา” ทำให้ได้ใจ FC ต้องจับตาโค้งสุดท้าย เชื่อมีวาทกรรม ทำคะแนนจากทุกพรรค


ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นของนิด้าโพลที่คนอยากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีมากสุด แต่ยังเลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทยมากสุดว่า หากดูคะแนนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกับนายเศรษฐา ทวีสิน จะได้คะแนนนิยมร้อยละ 29 แล้วร้อยละ 6 รวมกันแล้วได้ประมาณร้อยละ 35 จะเท่ากับคะแนนของนายพิธา ซึ่งเท่ากับว่าคะแนนของ น.ส.แพทองทา โดนโยกไป ให้กับนายเศรษฐา

สิ่งที่น่าสังเกตคือคะแนนของพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะเกิดจาก คะแนนนิยมที่ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงของพรรคก้าวไกล โดยส่วนหนึ่งเห็นว่า เป็นเพราะนายพิธามีความสามารถในการปราศรัย สามารถจูงใจคนรุ่นใหม่อายุ 18 ถึง 25 ปีขึ้นไป ถึง 35 ปีได้ และสามารถปั่นกระแสในสังคมออนไลน์หรือ Social Media ได้ นอกจากนี้พักก้าวไกลยังมีความชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกับใครหรือไม่ร่วมกับใครขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่ชัดแบบนี้


อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยจะพยายามทำทุกอย่าง และหาทุกกลยุทธ์เพื่อที่จะพลิกเกมตรงนี้ให้ได้ เพราะถูกดึงคะแนน จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถึง 35 ปี ไปค่อนข้างเยอะ และขณะนี้คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล บุกไปที่พื้นที่อีสานและภาคกลางดึงคะแนนของพรรคเพื่อไทยมาหลายเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งคะแนนค่อนข้างจะเสถียร ก็ต้องพยายามปรับกลยุทธ์และดันกระแส ซึ่งหากพรรครวมไทยสร้างชาติปรับกลยุทธ์ และดันกระแสอาจจะไปกินพวกเดียวกันเอง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นต้องจับตาดูเพราะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเชื่อว่าจะได้เห็นวาทกรรมทางการเมืองจากทุกพรรคเพื่อมาดึงคะแนนในช่วงโค้งสุดท้าย

ด้านรศ.ดร.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่าดูจากผลการสำรวจของนิด้าโพล ค่อนข้างตื่นเต้นกับคะแนนในพื้นที่ภาคใต้ ที่คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล ร้อยละ 25.36 เท่ากับรวมไทยสร้างชาติ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 17.20 ซึ่งทำให้เห็นว่าที่เคยมองว่า พื้นที่ภาคใต้จะแข่งกันระหว่างประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ และมีพลังประชารัฐแทรกมานิดหน่อยนั้น ไม่จริง เพราะวันนี้เท่ากับว่าพรรคก้าวไกลเป็นตัวเลือกอีกตัวเลือกหนึ่ง ซึ่งต้องจับตาดูภาคใต้ในเขตเมืองหรือหัวเมืองใหญ่ๆ เพราะหากดูตามโพล มีโอกาสพลิก ไปจากขั้วอนุรักษ์นิยม แล้วจะพลิกไปที่ก้าวไกล


“โพลที่ออกมาครั้งนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะเหม็ง เพราะเชื่อว่าผู้ที่จะออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว และหลังเลือกตั้งล่วงหน้าจะมีเวลาหาเสียงอีกเพียง 5 วัน ที่แต่ละพรรคจะต้องเร่งทำคะแนน และหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคอีสาน ที่พรรคเพื่อไทยมั่นใจจะได้แน่นั้น ตอนนี้หากดูจากโพลก็ไม่แน่แล้ว เพราะพรรคก้าวไกลเติบโตแบบอัตราเร่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากวาทกรรม ” มีลุงไม่มีเรา” และหากย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ใช้โอกาสบนเวทีดีเบตได้ดีที่สุดโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และจะเห็นว่าเป็พรรคการเมืองเดียวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดย ทุกเวทีคัดคนคุณภาพไปดีเบต เพื่อหวังคะแนนในส่วนนี้และเห็นว่าได้ผลและหากพรรคก้าวไกลสามารถ สร้างคะแนนนิยมได้ ก็มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน” รศ.ดร.ธนพร กล่าว

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า พรรคก้าวไกลสามารถสื่อสารนโยบายของพรรคกับประชาชนให้เข้าใจได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้เวทีดีเบต เป็นพื้นที่หลัก และผู้สมัครของพรรคเกือบทุกคนสามารถอธิบาย นโยบายได้อย่างแม่นยำ เพราะพรรคก้าวไกลมีชุดความคิดที่เป็นระบบ แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น และหลังจากดีเบตแล้วยัง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรับรู้ของประชาชน นำมาขยายในโซเชียล รวมทั้งผู้สมัครของภาคก้าวไกลขยันในการลงพื้นที่พบปะประชาชนในทุกรูปแบบ จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารกระจายไปในวงกว้าง ทำให้ได้คะแนนจากคนรุ่นใหม่ 

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคก้าวไกล จะมีคะแนนขยับขึ้นมาแต่ยังไม่ถึงกับปิดประตู แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นอยู่กับโค้งสุดท้าย หากสามารถ สร้างกระแสได้มากพอ มีเสียงถึง 160 เสียงก็มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]