กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.-กระทรวงการคลังและทีดีอาร์ไอ หนุนระบบ CoST
ติดตามโครงการลงทุนภาครัฐ ขณะที่นักวิชาการแนะบังคับใช้กฎหมายไทยให้เข้มงวดควบคู่กับมาตรฐานต่างชาติ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวในงานสัมมนา
“โครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ ( CoST) ” ว่า
เมื่อรัฐบาลมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก และไทยเป็นสมาชิกโครงการ “คอสท์” (CoST : Construction Sector Transparency Initiative) ในปี 2558 จึงได้นำระบบ CoST
มาใช้ติดตามดูแลความโปร่งใสในการลงทุน เพื่อติดตามระบบการเปิดเผยข้อมูลในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ หลังจากทดลองนำร่องติดตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ระยะที่ 2 ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือทอท. ตั้งแต่ปี 2559 จนประสบความสำเร็จจึงได้ขยายโครงการลงทุนไปยังการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-
ดาวคะนอง โครงการลงทุนของกรมการแพทย์ กระทรวงศึกษาธิการ
กรมท่าอากาศยานในการพัฒนาสนามบินหลายแห่งในต่างจังหวัด เตรียมนำระบบ CoST มาใช้ในการติดตามการลงทุน
นอกจากนี้ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ได้กำหนดให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่นำระบบ CoST มาใช้ในการติดตามแผนการลงทุนให้เกิดความโปร่งใสในทุกขั้นตอนจากบุคคลภายนอกและหน่วยงานต่าง
ๆ นอกจากนี้ สคร.ได้ร่วมกับกรมบัญชีกลางจัดทำเว็บไซค์เชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้ระบบ CoST
ใช้ติดตามดูแลโครงการลงทุนของภาครัฐ มูลค่ากว่า 5.7 ล้านล้านบาท
คิดเป็นครึ่งหนึ่งของการลงทุนก่อสร้างทั้งหมดของประเทศ
นับเป็นการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เช่น ถนน อ่างเก็บน้ำ โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า และสนามบิน
นางเดือนเด่น นิคมบริรักษ์
ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า
กฎหมายของไทยล้ำหน้าการดูแลความโปร่งใสหลายประเทศ แต่ไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจัง
จึงทำให้โครงการลงทุนหลายหน่วยงานไม่ได้เปิดเผยอย่างแท้จริง
ปัญหาปัจจุบันอยู่ที่การบังคับใช้อย่างจริงจัง แต่การมีระบบ CoST เข้ามาติดตามดูแลโครงการลงทุนเพราะเป็นเกณฑ์ของต่างชาติอาจทำให้คนไทยตื่นตัวเพราะเป็นมาตรฐานของต่างชาติอาจทำให้สังคมหันมาร่วมมือมากขึ้น แต่กฎเกณฑ์ของไทยเองกลับไม่ดำเนินการ
และยอมรับว่ากฎหมายของไทยขณะนี้เปิดช่องให้ตีความว่า ข้อมูลใดควรเปิดเผย
เรื่องใดไม่ควรเปิดเผยข้อมูลรัฐ
เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีความผิดหากเปิดเผยข้อมูลของรัฐ
นายประยงค์ หิรัญญะวณิชย์ กรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
กล่าวว่า ทุกโครงการลงทุนในชนบทควรเปิดให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการติดตามโครงการลงทุนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
และเสนอให้ทุกหน่วยงานลงทุนเปิดเผยข้อมูลการลงทุนให้ประชาชนได้ติดตามโดยไม่ต้องให้บุคคลภายนอกมาบังคับ.-สำนักข่าวไทย
