หนุนใช้ประโยชน์จาก One Belt One Road

กระทรวงพาณิชย์หนุนผู้ส่งออกไทยเจาะตลาดจีนในเมืองตามเส้นทาง One Belt One Road 


กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.-นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แนะให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากนโยบาย One Belt One Road ของจีน โดยควรมุ่งไปที่การขยายตลาดสินค้าไปตามเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทาง One Belt One Road อาทิ กว่างเจา ฝูเจี้ยน เฉิงตู ฉงชิ่ง เจิ้งโจว ซีอาน หลานโจว และใช้ศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศจีนเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าไทยไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่น รัสเซีย เอเชียกลาง และยุโรป โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมหารือกับภาคเอกชนของไทยในการรองรับนโยบาย  One Belt One Road เพื่อร่วมกันบูรณาการกับภาคเอกชนมีแนวทางในการ ส่งเสริมให้ไทยเข้าไปขยายตลาดสินค้ายังเมืองสำคัญที่อยู่ในเส้นทาง One Belt One Road รวมทั้งเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของประเทศจีน  

นอกจากนี้ ยังจัดทำเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลการค้าเชิงลึก รวมถึงศักยภาพและโอกาสทางการค้ากับเมืองสำคัญและประเทศต่างๆ ที่อยู่ในแนวเส้นทาง One Belt One Road รวมทั้งควรให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในประเทศจีนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไทยเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนจากนโยบายดังกล่าวในประเทศจีน  ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากนโยบาย One Belt One Road ผ่านแผนงาน GMSกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และ CLMVT Forum ผลการประชุมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับกระทรวงพาณิชย์


สำหรับประเทศไทยสามารถเชื่อมต่อโดยใช้ประโยชน์จากเส้นทางสาย R3 ไม่ว่าจะเป็น R3A หรือ R3B โดยเฉพาะเส้นทางสาย R3 ที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศจีน และสามารถเชื่อมโยงกับเส้นทาง One Belt One Road ได้ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือ แม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) และ CLMVT Forum ในการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศจีน และโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ เพื่อใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบด้านที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน 

สำหรับนโยบาย One Belt One Road หรือชื่อเรียกในปัจจุบัน คือ Belt and Road Initiative ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) และได้ประกาศนโยบายดังกล่าวในขณะเดินทางเยือนประเทศคาซัคสถานและประเทศอินโดนีเซีย นโยบาย One Belt One Road เป็นนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ของประเทศจีน (2016 – 2020) มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางถนน ราง และท่าเรือ ให้เชื่อมต่อทั้งประเทศ อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุล ซึ่งมุ่งที่จะกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกกับพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงระหว่างประเทศจีนกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศคู่ค้าเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา รวมกว่า 60 ประเทศ โดยมีภูมิภาคเอเชียกลางเป็นภูมิภาคเชื่อมกลาง มีหลักความร่วมมือพื้นฐานสำคัญ 5 ประการ ได้แก่  การประสานนโยบายร่วมกัน (Policy coordination) การเชื่อมโยงสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility connectivity) การไม่กีดกันทางการค้า (Unimpeded trade) การรวมกลุ่มทางด้านการเงิน (Financial integration) และการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างประชาชนของประเทศต่างๆ (Sharing of ideas among the people) นโยบายฯ เป็นการสนับสนุนนโยบายด้านการต่างประเทศของประเทศจีนในการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้ากับต่างประเทศ-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่