กองทุนประกันวินาศภัย

27 มิ.ย. – ในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทุนประกันวินาศภัยถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังบริษัทประกันจำนวน 4 แห่ง ประกาศปิดกิจการลงจากการเผชิญมรสุมโควิด-19 “เจอ จ่าย จบ” อย่างสาหัส โดยเริ่มจาก “เดอะวันประกันภัย” และ “เอเชียประกันภัย” ที่ปิดกิจการในปี 2564 จากนั้นในปีถัดมา บริษัทยักษ์ใหญ่ “อาคเนย์ประกันภัย” ที่มีอายุ 76 ปี และ “ไทยประกันภัย” บริษัทประกันภัยแห่งแรกของคนไทยอายุ 84 ปี ก็ปิดตัวตามลงไป เพราะโควิด-19 คุมไม่อยู่ ยอดเคลมพุ่งสูง จนบริษัทประกันภัยฯ เหล่านั้นต้องยื่นขอคืนใบอนุญาต สุดท้ายจบลงด้วยการถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และต้องปิดตัวลงในวันที่ 1 เมษายน 2565


“เมื่อบริษัทปิดตัวลง เงินที่จ่ายไปตามสัญญาจะสูญหายหรือไม่ และทำอย่างไรจะได้เงินนั้นกลับคืนมา”
“ความคุ้มครองที่เหลืออยู่จะได้รับการชดเชย ดูแลต่อหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ”
ความกังวลเหล่านี้ เกิดแก่เจ้าของกรมธรรม์ทันที เพราะการทำประกันภัยไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย ก็ย่อมคาดหวังว่าเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้นกรมธรรม์ที่ถือจะให้สิทธิประโยชน์ตามสัญญา

ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 กำหนดให้กรณีที่บริษัทประกันวินาศภัยใด ประสงค์จะเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยให้ยื่นคำขออนุญาตต่อคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้มีส่วนได้เสีย โดยคณะกรรมการมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ให้บริษัทต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จก่อนที่คณะกรรมการจะอนุญาตให้เลิกกิจการ โดยการเลิกบริษัทให้มีผลนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และให้มีการชำระบัญชี


นั่นหมายความว่า เจ้าของกรมธรรม์จะยังได้รับการดูแล และได้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยอยู่ กรณีที่บริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต

“กองทุนประกันวินาศภัย” จะเป็นผู้จัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางของ “กองทุนประกันวินาศภัย” รวมถึงดูแลเรื่องการเคลม หรือ คืนเบี้ยประกันทั้งหมด

เช่นกรณีที่เกิดขึ้น ก็ได้เห็น “กองทุนประกันวินาศภัย” เข้ามามีบทบาทเป็น “ผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความคุ้มครองแทนบริษัทที่ปิดตัวไป ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ตามกฎหมาย”


ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนต่อธุรกิจประกันภัย จึงได้มีการบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธของผู้ทำประกันขึ้น

“กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นหนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียน ประเภท “เพื่อการสนับสนุนส่งเสริม” ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558

“กองทุนประกันวินาศภัย” มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิ์ได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยในกรณีบริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ก็พอจะทราบถึงบทบาทหน้าที่กองทุนประกันวินาศภัยกันบ้างแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้น จึงจะขอกล่าวถึงบทบาทหน้าที่กองทุนฯ ว่ามีอะไรบ้าง
1.เป็นที่พึ่งผู้เอาประกันภัยเมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต
2.ดูแลครอบคลุมประกันวินาศภัย ประกันวินาศภัยมั่นคง
3.ให้ความรู้กองทุนประกันวินาศภัย ประกันวินาศภัย
4.ส่งเสริมความมั่นคงธุรกิจประกันวินาศภัย
5.บริหารเงินกองทุนให้พร้อมในการจ่ายเงินแก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัย คุ้มครองสิทธิประโยชน์
6.มีความพร้อมชำระบัญชี เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
7.หน้าที่พัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

การปฏิบัติงานของกองทุนประกันวินาศภัยหลังบริษัทประกันฯ ปิดกิจการ มีดังนี้
ในฐานะเป็นองค์กรรัฐ มีระเบียบที่ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งรวมใช้เวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน โดยทันทีที่ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” มีคำสั่ง “เพิกถอนใบอนุญาต” หรือ “ปิด” บริษัท ประกันวินาศภัย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ “สำนักงาน คปภ.” ในฐานะ “นายทะเบียน” ก็จะมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “กองทุนประกันวินาศภัยหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใด” เป็น “ผู้ชำระบัญชี” ของบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตนั้น

จากนั้น “สำนักงาน คปภ.” จะส่งมอบหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองของบริษัทประกันวินาศภัยที่วางไว้กับสำนักงาน คปภ. ให้กับ “กองทุนประกันวินาศภัย หรือบุคคลอื่นใดที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ชำระบัญชี” ภายใน 30 วันทำการ

ส่วนของกองทุนประกันวินาศภัย เมื่อถูกแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชี จะมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้
1.ทำการจดทะเบียนเลิกกิจการ และประกาศทางหนังสือพิมพ์ภายใน 7 วัน เพื่อให้ประชาชนทราบว่าบริษัทประกันวินาศภัยนั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกสั่งปิด
2.กองทุนฯ จะส่งจดหมายให้เจ้าหนี้ และลูกหนี้ของบริษัทรับทราบภายใน 30 วัน ตามรายชื่อที่ปรากฏในข้อมูลของบริษัท
3.กองทุนฯ จะประกาศให้บรรดาเจ้าหนี้ทราบว่า กองทุนฯ จะกำหนดวันใดให้มายื่นคำทวงหนี้ ซึ่งมีระยะเวลาการยื่นภายใน 60 วัน
4.หลังสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นคำทวงหนี้ กองทุนฯ จะเร่งพิจารณาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามสัญญาประกันภัยจาก “คำทวงหนี้ของเจ้าหนี้” แต่ละรายที่มายื่นกับกองทุนฯ โดยเร็ว

ซึ่งการพิจารณาชำระหนี้ ทางกองทุนฯ จะมีคณะอนุกรรมการต่างๆ เข้ามาร่วมพิจารณาเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม และหลังจากผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนประกันวินาศภัยเรียบร้อยแล้ว ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้ลูกหนี้ทราบทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่เจ้าหนี้ฯ ได้แจ้งไว้กับกองทุนฯ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า “กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นที่พึ่งผู้เอาประกันภัย เมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต และอีกหนึ่งในภารกิจสำคัญก็คือ การเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนประกันวินาศภัย และการประกันวินาศภัย เพื่อส่งเสริมความมั่นคงของธุรกิจประกันวินาศภัย โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กองทุนประกันวินาศภัยก็ยังมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายและให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1.โครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ ส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยและการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค
2.โครงการอบรมความรู้บทบาทหน้าที่กองทุนประกันวินาศภัยให้กับกลุ่มอาสาสมัคร
3.จัดคูหานิทรรศการ ภายใต้กิจกรรม “เปิดบ้านส่งความรู้สู่เพื่อนบ้าน”
4.โครงการแถลงข่าวว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลผลการตรวจ RT-PCR กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVIC-19) ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับกองทุนประกันวินาศภัย (MOU) เพื่อใช้เชื่อมโยงข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลผลการตรวจ RT-PCR กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
5.จัดโครงการกองทุนประกันวินาศภัยพบปะประชาชนผู้ยื่นคำทวงหนี้ ภาค 1 (เชียงใหม่)
6.จัดโครงการสร้างความร่วมมือระหว่างกองทุนประกันวินาศภัยกับเครือข่ายในภาคอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย
7.จัดโครงการกองทุนประกันวินาศภัยพบสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนประกันวินาศภัยในปี 2565 และแผนงานที่จะดำเนินการในปี 2566

“กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหาร “ทุนหมุนเวียน” ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกลไกในการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งยังส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]