กองทุนประกันวินาศภัย

27 มิ.ย. – ในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทุนประกันวินาศภัยถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังบริษัทประกันจำนวน 4 แห่ง ประกาศปิดกิจการลงจากการเผชิญมรสุมโควิด-19 “เจอ จ่าย จบ” อย่างสาหัส โดยเริ่มจาก “เดอะวันประกันภัย” และ “เอเชียประกันภัย” ที่ปิดกิจการในปี 2564 จากนั้นในปีถัดมา บริษัทยักษ์ใหญ่ “อาคเนย์ประกันภัย” ที่มีอายุ 76 ปี และ “ไทยประกันภัย” บริษัทประกันภัยแห่งแรกของคนไทยอายุ 84 ปี ก็ปิดตัวตามลงไป เพราะโควิด-19 คุมไม่อยู่ ยอดเคลมพุ่งสูง จนบริษัทประกันภัยฯ เหล่านั้นต้องยื่นขอคืนใบอนุญาต สุดท้ายจบลงด้วยการถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และต้องปิดตัวลงในวันที่ 1 เมษายน 2565


“เมื่อบริษัทปิดตัวลง เงินที่จ่ายไปตามสัญญาจะสูญหายหรือไม่ และทำอย่างไรจะได้เงินนั้นกลับคืนมา”
“ความคุ้มครองที่เหลืออยู่จะได้รับการชดเชย ดูแลต่อหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ”
ความกังวลเหล่านี้ เกิดแก่เจ้าของกรมธรรม์ทันที เพราะการทำประกันภัยไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย ก็ย่อมคาดหวังว่าเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้นกรมธรรม์ที่ถือจะให้สิทธิประโยชน์ตามสัญญา

ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 กำหนดให้กรณีที่บริษัทประกันวินาศภัยใด ประสงค์จะเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยให้ยื่นคำขออนุญาตต่อคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้มีส่วนได้เสีย โดยคณะกรรมการมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ให้บริษัทต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จก่อนที่คณะกรรมการจะอนุญาตให้เลิกกิจการ โดยการเลิกบริษัทให้มีผลนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และให้มีการชำระบัญชี


นั่นหมายความว่า เจ้าของกรมธรรม์จะยังได้รับการดูแล และได้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยอยู่ กรณีที่บริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต

“กองทุนประกันวินาศภัย” จะเป็นผู้จัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางของ “กองทุนประกันวินาศภัย” รวมถึงดูแลเรื่องการเคลม หรือ คืนเบี้ยประกันทั้งหมด

เช่นกรณีที่เกิดขึ้น ก็ได้เห็น “กองทุนประกันวินาศภัย” เข้ามามีบทบาทเป็น “ผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความคุ้มครองแทนบริษัทที่ปิดตัวไป ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ตามกฎหมาย”


ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนต่อธุรกิจประกันภัย จึงได้มีการบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธของผู้ทำประกันขึ้น

“กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นหนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียน ประเภท “เพื่อการสนับสนุนส่งเสริม” ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558

“กองทุนประกันวินาศภัย” มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิ์ได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยในกรณีบริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ก็พอจะทราบถึงบทบาทหน้าที่กองทุนประกันวินาศภัยกันบ้างแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้น จึงจะขอกล่าวถึงบทบาทหน้าที่กองทุนฯ ว่ามีอะไรบ้าง
1.เป็นที่พึ่งผู้เอาประกันภัยเมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต
2.ดูแลครอบคลุมประกันวินาศภัย ประกันวินาศภัยมั่นคง
3.ให้ความรู้กองทุนประกันวินาศภัย ประกันวินาศภัย
4.ส่งเสริมความมั่นคงธุรกิจประกันวินาศภัย
5.บริหารเงินกองทุนให้พร้อมในการจ่ายเงินแก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัย คุ้มครองสิทธิประโยชน์
6.มีความพร้อมชำระบัญชี เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
7.หน้าที่พัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

การปฏิบัติงานของกองทุนประกันวินาศภัยหลังบริษัทประกันฯ ปิดกิจการ มีดังนี้
ในฐานะเป็นองค์กรรัฐ มีระเบียบที่ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งรวมใช้เวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน โดยทันทีที่ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” มีคำสั่ง “เพิกถอนใบอนุญาต” หรือ “ปิด” บริษัท ประกันวินาศภัย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ “สำนักงาน คปภ.” ในฐานะ “นายทะเบียน” ก็จะมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “กองทุนประกันวินาศภัยหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใด” เป็น “ผู้ชำระบัญชี” ของบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตนั้น

จากนั้น “สำนักงาน คปภ.” จะส่งมอบหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองของบริษัทประกันวินาศภัยที่วางไว้กับสำนักงาน คปภ. ให้กับ “กองทุนประกันวินาศภัย หรือบุคคลอื่นใดที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ชำระบัญชี” ภายใน 30 วันทำการ

ส่วนของกองทุนประกันวินาศภัย เมื่อถูกแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชี จะมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้
1.ทำการจดทะเบียนเลิกกิจการ และประกาศทางหนังสือพิมพ์ภายใน 7 วัน เพื่อให้ประชาชนทราบว่าบริษัทประกันวินาศภัยนั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกสั่งปิด
2.กองทุนฯ จะส่งจดหมายให้เจ้าหนี้ และลูกหนี้ของบริษัทรับทราบภายใน 30 วัน ตามรายชื่อที่ปรากฏในข้อมูลของบริษัท
3.กองทุนฯ จะประกาศให้บรรดาเจ้าหนี้ทราบว่า กองทุนฯ จะกำหนดวันใดให้มายื่นคำทวงหนี้ ซึ่งมีระยะเวลาการยื่นภายใน 60 วัน
4.หลังสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นคำทวงหนี้ กองทุนฯ จะเร่งพิจารณาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามสัญญาประกันภัยจาก “คำทวงหนี้ของเจ้าหนี้” แต่ละรายที่มายื่นกับกองทุนฯ โดยเร็ว

ซึ่งการพิจารณาชำระหนี้ ทางกองทุนฯ จะมีคณะอนุกรรมการต่างๆ เข้ามาร่วมพิจารณาเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม และหลังจากผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนประกันวินาศภัยเรียบร้อยแล้ว ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้ลูกหนี้ทราบทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่เจ้าหนี้ฯ ได้แจ้งไว้กับกองทุนฯ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า “กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นที่พึ่งผู้เอาประกันภัย เมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต และอีกหนึ่งในภารกิจสำคัญก็คือ การเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนประกันวินาศภัย และการประกันวินาศภัย เพื่อส่งเสริมความมั่นคงของธุรกิจประกันวินาศภัย โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กองทุนประกันวินาศภัยก็ยังมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายและให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1.โครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ ส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยและการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค
2.โครงการอบรมความรู้บทบาทหน้าที่กองทุนประกันวินาศภัยให้กับกลุ่มอาสาสมัคร
3.จัดคูหานิทรรศการ ภายใต้กิจกรรม “เปิดบ้านส่งความรู้สู่เพื่อนบ้าน”
4.โครงการแถลงข่าวว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลผลการตรวจ RT-PCR กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVIC-19) ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับกองทุนประกันวินาศภัย (MOU) เพื่อใช้เชื่อมโยงข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลผลการตรวจ RT-PCR กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
5.จัดโครงการกองทุนประกันวินาศภัยพบปะประชาชนผู้ยื่นคำทวงหนี้ ภาค 1 (เชียงใหม่)
6.จัดโครงการสร้างความร่วมมือระหว่างกองทุนประกันวินาศภัยกับเครือข่ายในภาคอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย
7.จัดโครงการกองทุนประกันวินาศภัยพบสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนประกันวินาศภัยในปี 2565 และแผนงานที่จะดำเนินการในปี 2566

“กองทุนประกันวินาศภัย” เป็นผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหาร “ทุนหมุนเวียน” ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกลไกในการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งยังส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร […]

นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-ภัยพิบัติ-สังคม เข้มปราบยา-พนันออนไลน์ ย้ำรัฐบาลนี้ไม่กาสิโน ลั่นทำงานไม่มีวันหยุด อาจประชุม ครม. มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภาอยู่ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ การลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ผลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายลดลง นอกจากนั้น ในด้านพลังงาน จะสนับสนุนประชาชนได้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น สะดวกขึ้น […]

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย