ซีไอเอ็มบีระบุรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนช่วงครึ่งหลังของปี

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.-ที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยระบุเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย โดยมองไตรมาส 4 มีโอกาสจะเติบโตเฉียด 5% ดังนั้น ทิศทางภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี


ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยเปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีโอกาสจะขยายตัวได้ 3.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมองว่าไตรมาส4 มีโอกาสจะเติบโตเฉียด 5% เพราะฉะนั้นมองภาพเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี

ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตเร่งแรง มาจาก 3 ปัจจัย


1. จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นเร็วกว่าที่คาด และฟื้นเร็วกว่าที่เห็นช่วงครึ่งแรกของปี ไม่ว่าจะเป็นหลายประเทศที่เริ่มกลับมามีจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ ยุโรป รัสเซียอย่างไรก็ดี ต้องรอจำนวนนักท่องเที่ยวจีนให้มากกว่านี้ แต่ก็เชื่อว่าโอกาสที่จะกลับมามีมากขึ้น ผลดีน่าจะมีต่อธุรกิจบริการกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ขนส่ง (สายการบิน) ค้าปลีก โดยเฉพาะตลาดบน เช่น โรงแรมขนาด 4 ดาวขึ้นไป และน่าจะเห็นการกระจายตัวมากกว่าในกรุงเทพฯและภูเก็ตออกไปเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น พัทยา สมุย กระบี่ เป็นต้น

2. ภาคการส่งออกที่น่าจะพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากติดลบต่อเนื่องในช่วงต้นปี เห็นภาพการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ชิ้นส่วน น่าจะสนับสนุนให้เกิดภาคการลงทุนที่ดีขึ้น การจ้างงานที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งสนับสนุนภาคการบริโภคอีกทอดหนึ่ง โดยกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีในช่วงไตรมาส 3 น่าจะอยู่ในกลุ่มอาหารแปรรูปและเกษตรแปรรูป โดยได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศจีนเป็นสำคัญ

3. ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่น่าจะทรงตัว หรือกลับมาย่อลงเล็กน้อย ตามปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตช้าลง โดยราคาน้ำมันที่ย่อลงน่าจะเป็นส่วนที่ช่วยลดค่าครองชีพให้คนในประเทศ สนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มที่จะทรงตัวและลดลงต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งน่าจะช่วยลดต้นทุนภาคการเกษตรจากราคาอาหารสัตว์ที่ลดลงและภาคการก่อสร้างจากราคาวัสดุต่างๆที่ทรงตัวได้ แต่อาจไม่มากเพราะปัญหาภัยแล้งจากสภาวะเอลนีโญ (El Nino)


ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีความเสี่ยงที่อาจทำให้การฟื้นตัวสะดุดได้ ด้วย 3 ปัจจัย

1. ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล อาจจะมีความล่าช้า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ คือ ต่างชาติ wait and see รอดูก่อน ก่อนที่จะกลับมาลงทุนในประเทศไทย อาจจะทำให้ไทยเสียโอกาสจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ในอุตสาหกรรมสำคัญๆ บางครั้งเราอาจเสียโอกาสในการเร่งเจรจาการค้าเสรี (FTA) กับชาติยุโรป หรือชาติคู่ค้าสำคัญ ส่งผลให้ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย พิจารณาย้ายฐานไปเวียดนามหรือประเทศอื่นได้ หากสถานการณ์ของเรายังไม่มีการเอื้อ ให้เกิดประโยชน์จากการตั้งฐานการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ งบการใช้จ่ายภาครัฐ งบการลงทุนภาครัฐ อาจลดลงต่อเนื่องได้ กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ เมื่อเอกชนไทยยังไม่เห็นโครงการลงทุนภาครัฐใหม่ ๆ เอกชนอาจชะลอการก่อสร้างและกระทบภาคส่วนนี้ เว้นคอนโดมิเนียมระดับ 3 ล้านบาทตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ยังไปต่อได้

2. เศรษฐกิจโลกชะลอโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน เราเห็นภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่เร่งแรงช่วงไตรมาส 1 ที่ 4.5% หลังจีนเปิดเมือง คนเร่งบริโภค แต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งภาคการส่งออกที่พลิกกลับมาติดลบ ภาคการผลิตที่เริ่มเติบโตช้าลง รวมทั้งการใช้จ่ายของคนในประเทศเองไม่ได้แข็งแรงเหมือนต้นปี ภาครัฐเองเริ่มหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดดอกเบี้ยช่วงที่ผ่านมา อาจพอพยุงเศรษฐกิจได้บ้าง แต่ภาพเศรษฐกิจจีนที่เสี่ยงจะชะลอลงปัญหาสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีกับสหรัฐฯที่สหรัฐฯพยายามกดดันไม่ให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดีนักโดยเฉพาะการส่งออกของจีนในอนาคตและอาจมีแรงกดดันในภาคการผลิตของจีนอยู่ ซึ่งผลต่อภาคการส่งออกและการผลิตของจีนที่โตช้าจะกดดันภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวของไทยได้ในช่วงไตรมาส 3 นี้

3. ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อลากยาว เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อมีแรงกดดันในระดับที่สูงอยู่ เงินเฟ้อที่หักจากราคาพลังงานและราคาอาหาร (core inflation) ยังลดลงค่อนข้างช้า ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะมีความจำเป็นที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยอาจไม่ได้ขึ้นทุกรอบการประชุมหรืออาจจะขึ้นแล้วหยุดชั่วคราวก็ตาม ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าที่ตลาดคาดกันไว้ที่ระดับ 5.75% และโอกาสในการลดดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะหายไป น่าจะเกิดโอกาสที่เงินทุนจะเคลื่อนย้ายออกจากไทยกลับไปสู่สหรัฐฯกระทบให้เงินทุนผันผวน และทำให้บาทอ่อนค่าแตะระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กระทบกับค่าครองชีพในประเทศได้อีกทอดหนึ่ง ขณะที่ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย มีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อประคองแรงกดดันเงินเฟ้อในอนาคต แต่อาจมองว่าเรายังไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนสิงหาคม แต่อาจเว้นวรรคเพื่อรอความชัดเจนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเมือง รวมทั้งประเมินผลกระทบจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ยังมีอยู่ ก่อนจะปรับนโยบายทางการเงินในลำดับถัดไปในเดือนกันยายนสู่ระดับ 2.25%

“เรามองว่าการที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 จะฟื้นตัวได้ แบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวได้ชัดเจนในไตรมาส 4 ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าโอกาสของการฟื้นตัวน่าจะเป็นเชิงบวกที่ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ 3.3% ตามคาด” ดร.อมรเทพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย