22 มิ.ย. – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าคณะกรรมการ ปตท. มีการประชุมคร้ังที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ทบทวนแผนการลงทุนของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% และอนุมัติให้ปรับแผนการลงทุนสำหรับปี 2566 จาก 33,344 ล้านบาท เป็น 93,598 ล้านบาท เช่น ปรับลดธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ ส่วนที่เพิ่มมากที่สุด คือ การลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% เดิม 12,515 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น 73,779 ล้านบาท
นายอรรถพล ระบุการทบทวนแผนการลงทุนข้างต้น ส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อาทิ เงินลงทุนสำหรับรองรับการร่วมลงทุนของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 และการร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรโดยหลักจากโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทยของบริษัท อรุณ พลัส จำกัด ขณะที่การลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่เป็นธุรกิจหลัก (Core Business) ของ ปตท. เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศยังคงเป็นไปตามแผนการลงทุนเดิม อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หนึ่งในเป้าหมายธุรกิจระยะยาวของ PTT คือ การมองหา New Growth ด้วยการเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และธุรกิจอื่นให้มากกว่า 30% ในปี 2573 กลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญ 2 เรื่องคือการมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า (Future Energy) และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน (Beyond) โดยมองหาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มีความเชี่ยวชาญจริงในธุรกิจนั้น ๆ พัฒนาธุรกิจใหม่ให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมองหาช่องทางขยายธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งด้านบริหารจัดการโดยอาศัยทรัพยากรและฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของ PTT นอกจากธุรกิจอีวีครบวงจรแล้ว ยังลงทุน ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) มี บจ.อินโนบิก (เอเซีย) เป็นบริษัทแกนด้วยทุนจดทะเบียน 1.36 หมื่นล้านบาท มีการลงทุนแล้วใน Lotus ซึ่งเป็น บ.จดทะเบียนในไต้หวัน ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาโดยมุ่งเน้นยาสามัญที่ครอบคลุมหลายกลุ่มโรค , ลงทุนใน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) ซึ่งเป็น บ.จดทะเบียนใน mai โดย PTT ถือหุ้น 20% ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจรตั้งแต่เวชภัณฑ์นวัตกรรมยา จนถึงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ร้านขายยา และล่าสุดคือโรงพยาบาล และลงทุน ใน บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น โดย PTT ถือหุ้น 18% ทำธุรกิจผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อและให้บริการที่เกี่ยวข้อง. – สำนักข่าวไทย