กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติดูแลค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซิน ยังสูงกว่า 3 บาท/ลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีประเด็น ที่ฝ่ายการเมืองระบุว่ากระทรวงพลังงานนิ่งเฉยต่อการดูแลค่าการตลาดนั้น ขอชี้แจงในฐานะเป็นเลขานุการ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า ไม่ได้ละเลยต่อการดูแลเรื่องค่าตลาด โดย กบน. มีกรอบ ในการปฏิบัติตามแนวนโยบายของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงรวมทุกผลิตภัณฑ์แล้วอยู่ในกรอบ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งค่าการตลาดน้ำมันเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาที่เห็นสูงเกิน 3 บาทต่อลิตรตามโครงสร้างราคาแนะนำที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในตอนเช้านั้น เป็นข้อมูลก่อนที่กบน. จะมีการประกาศปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทน้ำมันดีเซล และก่อนที่ผู้ค้าน้ำมัน จะประกาศปรับลดราคาในระหว่างวัน ซึ่งจะมีผลในวันรุ่งขึ้น
โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนถึงแม้จะไม่รุนแรงเช่นในปีที่ผ่านมาทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันแนะนำที่ สนพ. จัดทำขึ้นมีความผันผวนไปในแต่ละวัน การพิจารณาค่าการตลาดเป็นรายวันและรายผลิตภัณฑ์อย่างเดียวคงไม่ถูกต้อง คงต้องนำมาถัวเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ซึ่งรวมถึงปริมาณการใช้ เพื่อมาคำนวณให้ได้ค่าการตลาดเฉลี่ยโดยรวมทุกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่ง สกนช.จะนำมาพิจารณาทุกวันตามกรอบการพิจารณาที่ กบน. กำหนด โดยในปี 2564 ค่าการตลาดเฉลี่ยโดยรวมทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 2.14 บาทต่อลิตร ปี 2565 อยู่ที่ 1.78 บาทต่อลิตร และในปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม อยู่ที่ 2.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะเห็นได้ว่า ค่าการตลาดน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ในบางครั้งจะสูงต่ำกว่าที่ กบง. กำหนดไว้ได้บ้างตามสถานการณ์ของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกและปริมาณการใช้น้ำมันแต่ละชนิด
“ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กบน. ยังคงยึดมั่นในการดำเนินการตามกรอบนโยบายภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด ซึ่งคำแนะนำต่าง ๆ สกนช. จะนำเสนอต่อ กบน. เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไป”นายวิศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวนตามสถานการณ์โลก ล่าสุด วันนี้ (16 มิ.ย. ) ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินสูงกว่า 3 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.73 บาท/ลิตร
ด้าน บมจ.ไทยออยล์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานยอดการกลั่นน้ำมันในจีนเดือน พ.ค. 66 ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 62.0 ล้านตัน แสดงถึงอุปสงค์น้ำมันในจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมทั้งโรงกลั่นฯ ทยอยกลับมาเดินเครื่องตามปกติหลังเสร็จสิ้นแผนการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ จีนนำเข้าน้ำมันดิบกว่า 12.1 ล้านตันในเดือน พ.ค. 66 จากราคาน้ำมันดิบที่มีการปรับลดลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดประมาณ 0.4% มาอยู่ที่ระดับ 102.1 ซึ่งช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลงและดึงดูดนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย