เคทีซี จับมือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี เที่ยวเกาหลีพิเศษกว่าเดิม

กรุงเทพ 8 มิ.ย.-องค์การส่งเสริมท่องเที่ยวเกาหลีร่วมกับเคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” เที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่ ให้พิเศษกว่าที่เคย สะท้อนผ่าน 3 มิติ วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมเพื่อสุขภาพ


มิสเตอร์ลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลีมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 5 ของโลกรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายให้ตลอดปี 2566 และ 2567 เป็นช่วงของ Korea – Thailand Visit Year เพื่อกระตุ้นให้คนเกาหลีและคนไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น โดยเริ่มจากงาน Thailand – Korea Tourism Forum ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี ในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 และที่กรุงเทพมหานครภายใต้ชื่องาน “Korea Everywhere” กำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และมีแผนจะไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งความร่วมมือกับเคทีซีเปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้พบกับการท่องเที่ยวเกาหลีในรูปแบบที่เหนือระดับยิ่งกว่าเดิม

นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า สำหรับใน ปี2566 – 2567 รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศว่าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของเกาหลี โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ได้นำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งแพ็คเกจการเดินทาง และแคมเปญส่งเสริมด้านการขายโดยใช้วัฒนธรรมของ K – Culture เป็นแกนในการกระตุ้นนักท่องเที่ยว สำหรับในปีนี้เราได้มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Premium Travel ในมุมมองที่แตกต่าง มุ่งเน้นการทำการตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเอ็กซ์คลูซีฟมากยิ่งขึ้น สะท้อนผ่าน 3 มิติ ประกอบด้วย วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมเพื่อสุขภาพ


“วัฒนธรรม” เกาหลีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน อาทิ ดนตรี การเต้นรำ ละคร และวรรณกรรม ร่วมสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นแบบลึกซึ้ง อาทิ ชมสวนลับที่พระราชวังชางด็อกกุง หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกาหลี  “อาหาร” ประเพณีการทำอาหารแบบท้องถิ่นยังคงเป็นเสน่ห์สำหรับเกาหลี ร่วมตามรอยร้านอาหารเกาหลีที่มีรสชาติความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ ลิ้มรสอาหารเกาหลีเมนูต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังร่วมสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่าน “กิจกรรมเพื่อสุขภาพ” อาทิ เปิดประสบการณ์ดูแลผิวพรรณ ด้วยส่วนผสมสมุนไพรระดับตำนานอย่างโสม”นางสาวอริญชยากล่าว

นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดท่องเที่ยวหมวดสายการบินกล่าวว่า ประเทศเกาหลีมีเอกลักษณ์ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามโดดเด่นในแต่ละฤดูกาล สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี ประกอบกับความแข็งแรงด้าน Soft Power ผ่านผลงานด้านศิลปะ ดนตรี ซีรี่ส์ เป็นส่วนกระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้นด้วย  เคทีซีเล็งเห็นความสำคัญของการทำงานกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี และพันธมิตรหมวดท่องเที่ยว เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกบัตรฯ ได้เดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีอย่างคุ้มค่า โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีนี้เทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 (ช่วงวิกฤติโควิด-19) มีจำนวนยอดรูดบัตรฯที่ประเทศเกาหลีเพิ่มมากขึ้น19% และมียอดใช้จ่ายต่อสมาชิกเพิ่มถึง 16% ในขณะที่KTC World Travel Service มียอดใช้จ่ายเส้นทางเกาหลีเพิ่มขึ้น 13% การร่วมกันเปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้สมาชิกบัตรฯ วางแผนท่องเที่ยวไปยังประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์กับพันธมิตรสายการบินชั้นนำ ได้แก่ เอเชียนา แอร์ไลน์ โคเรียน แอร์ และการบินไทย 

ทั้งนี้ แพคเกจพิเศษ โดยการจองผ่านหน้าเว็บไซต์สายการบิน อาทิ ส่วนลด 1,500 บาทจากสายการบิน เอเชียนา แอร์ไลน์ / ส่วนลด 10% จากสายการบิน โคเรียน แอร์ / หรือเมื่อจองผ่าน KTC World Travel Service รับส่วนลดตั๋วเครื่องบินทั้ง 3 สายในเส้นทางเกาหลีสูงสุดถึง 3,000 บาท / รับเพิ่ม 500 ROP miles กับการบินไทย และน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มกับสายการบิน โคเรียน แอร์ และแพคเกจเที่ยวอิสระกับ Lotte Hotel & Resort 3 วัน 2 คืน พร้อมบัตรเข้าสวนสนุก Lotte World สำหรับ 2 ท่าน ในราคาพิเศษ พร้อมส่วนลด 1,000 บาท / แพคเกจท่องเที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่เอ็กซ์คลูซีฟ 5 วัน 3 คืน โดยออกเดินทางในช่วงที่สวยที่สุดของเกาหลีในเดือนพฤศจิกายนนี้เพียง 79,900 บาท / รับสิทธิ์ผ่อนได้ 0% นาน 6 เดือน  


นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังมีสิทธิ์ลุ้นเป็น 5 คู่ผู้โชคดีท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน “Only In Korea, Especially for You” สัมผัสเกาหลีในรูปแบบที่แตกต่าง จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ สูงสุด ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการได้แก่ KTC World Travel Serviceศูนย์การค้าและดิวตี้ฟรีชั้นนำตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ระยะเวลาแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2566 – 15 ธันวาคม 2566 สามารถศึกษารายละเอียดและกิจกรรมเพิ่มเติมของแคมเปญฯ ได้ที่www.ktc.co.th/VisitKorea2023  ”

นายพีรพัฒน์ ดีสถิตกุล จากเพจ Jasonland แดนกิมจิ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเกาหลีของคนไทยในตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมก่อนโควิดพอสมควร นักท่องเที่ยวหันมาเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น และเน้นการท่องเที่ยวที่ลงลึกไปซึมซับความเป็นเกาหลีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรม หรือตลาดพื้นบ้านซึ่งนักท่องเที่ยวก็นิยมกันมาก รวมไปถึงการได้รับประสบการณ์การดูแลจากศาสตร์ของภูมิปัญญาความงาม จากสุดยอดเครื่องสำอางทีมีส่วนผสมจากสมุนไพรในตำนานอย่างโสมก็เป็นอีกความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 หรือที่เว็บไซต์www.ktcworld.co.th สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก เคทีซี ทัช ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์http://bit.ly/apply-ktc .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]