เคทีซี จับมือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี เที่ยวเกาหลีพิเศษกว่าเดิม

กรุงเทพ 8 มิ.ย.-องค์การส่งเสริมท่องเที่ยวเกาหลีร่วมกับเคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” เที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่ ให้พิเศษกว่าที่เคย สะท้อนผ่าน 3 มิติ วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมเพื่อสุขภาพ


มิสเตอร์ลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลีมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 5 ของโลกรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายให้ตลอดปี 2566 และ 2567 เป็นช่วงของ Korea – Thailand Visit Year เพื่อกระตุ้นให้คนเกาหลีและคนไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น โดยเริ่มจากงาน Thailand – Korea Tourism Forum ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี ในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 และที่กรุงเทพมหานครภายใต้ชื่องาน “Korea Everywhere” กำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และมีแผนจะไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งความร่วมมือกับเคทีซีเปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้พบกับการท่องเที่ยวเกาหลีในรูปแบบที่เหนือระดับยิ่งกว่าเดิม

นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า สำหรับใน ปี2566 – 2567 รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศว่าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของเกาหลี โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ได้นำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งแพ็คเกจการเดินทาง และแคมเปญส่งเสริมด้านการขายโดยใช้วัฒนธรรมของ K – Culture เป็นแกนในการกระตุ้นนักท่องเที่ยว สำหรับในปีนี้เราได้มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Premium Travel ในมุมมองที่แตกต่าง มุ่งเน้นการทำการตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเอ็กซ์คลูซีฟมากยิ่งขึ้น สะท้อนผ่าน 3 มิติ ประกอบด้วย วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมเพื่อสุขภาพ


“วัฒนธรรม” เกาหลีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน อาทิ ดนตรี การเต้นรำ ละคร และวรรณกรรม ร่วมสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นแบบลึกซึ้ง อาทิ ชมสวนลับที่พระราชวังชางด็อกกุง หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกาหลี  “อาหาร” ประเพณีการทำอาหารแบบท้องถิ่นยังคงเป็นเสน่ห์สำหรับเกาหลี ร่วมตามรอยร้านอาหารเกาหลีที่มีรสชาติความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ ลิ้มรสอาหารเกาหลีเมนูต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังร่วมสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่าน “กิจกรรมเพื่อสุขภาพ” อาทิ เปิดประสบการณ์ดูแลผิวพรรณ ด้วยส่วนผสมสมุนไพรระดับตำนานอย่างโสม”นางสาวอริญชยากล่าว

นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดท่องเที่ยวหมวดสายการบินกล่าวว่า ประเทศเกาหลีมีเอกลักษณ์ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามโดดเด่นในแต่ละฤดูกาล สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี ประกอบกับความแข็งแรงด้าน Soft Power ผ่านผลงานด้านศิลปะ ดนตรี ซีรี่ส์ เป็นส่วนกระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้นด้วย  เคทีซีเล็งเห็นความสำคัญของการทำงานกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี และพันธมิตรหมวดท่องเที่ยว เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกบัตรฯ ได้เดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีอย่างคุ้มค่า โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีนี้เทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 (ช่วงวิกฤติโควิด-19) มีจำนวนยอดรูดบัตรฯที่ประเทศเกาหลีเพิ่มมากขึ้น19% และมียอดใช้จ่ายต่อสมาชิกเพิ่มถึง 16% ในขณะที่KTC World Travel Service มียอดใช้จ่ายเส้นทางเกาหลีเพิ่มขึ้น 13% การร่วมกันเปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้สมาชิกบัตรฯ วางแผนท่องเที่ยวไปยังประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์กับพันธมิตรสายการบินชั้นนำ ได้แก่ เอเชียนา แอร์ไลน์ โคเรียน แอร์ และการบินไทย 

ทั้งนี้ แพคเกจพิเศษ โดยการจองผ่านหน้าเว็บไซต์สายการบิน อาทิ ส่วนลด 1,500 บาทจากสายการบิน เอเชียนา แอร์ไลน์ / ส่วนลด 10% จากสายการบิน โคเรียน แอร์ / หรือเมื่อจองผ่าน KTC World Travel Service รับส่วนลดตั๋วเครื่องบินทั้ง 3 สายในเส้นทางเกาหลีสูงสุดถึง 3,000 บาท / รับเพิ่ม 500 ROP miles กับการบินไทย และน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มกับสายการบิน โคเรียน แอร์ และแพคเกจเที่ยวอิสระกับ Lotte Hotel & Resort 3 วัน 2 คืน พร้อมบัตรเข้าสวนสนุก Lotte World สำหรับ 2 ท่าน ในราคาพิเศษ พร้อมส่วนลด 1,000 บาท / แพคเกจท่องเที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่เอ็กซ์คลูซีฟ 5 วัน 3 คืน โดยออกเดินทางในช่วงที่สวยที่สุดของเกาหลีในเดือนพฤศจิกายนนี้เพียง 79,900 บาท / รับสิทธิ์ผ่อนได้ 0% นาน 6 เดือน  


นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังมีสิทธิ์ลุ้นเป็น 5 คู่ผู้โชคดีท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน “Only In Korea, Especially for You” สัมผัสเกาหลีในรูปแบบที่แตกต่าง จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ สูงสุด ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการได้แก่ KTC World Travel Serviceศูนย์การค้าและดิวตี้ฟรีชั้นนำตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ระยะเวลาแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2566 – 15 ธันวาคม 2566 สามารถศึกษารายละเอียดและกิจกรรมเพิ่มเติมของแคมเปญฯ ได้ที่www.ktc.co.th/VisitKorea2023  ”

นายพีรพัฒน์ ดีสถิตกุล จากเพจ Jasonland แดนกิมจิ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเกาหลีของคนไทยในตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมก่อนโควิดพอสมควร นักท่องเที่ยวหันมาเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น และเน้นการท่องเที่ยวที่ลงลึกไปซึมซับความเป็นเกาหลีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรม หรือตลาดพื้นบ้านซึ่งนักท่องเที่ยวก็นิยมกันมาก รวมไปถึงการได้รับประสบการณ์การดูแลจากศาสตร์ของภูมิปัญญาความงาม จากสุดยอดเครื่องสำอางทีมีส่วนผสมจากสมุนไพรในตำนานอย่างโสมก็เป็นอีกความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 หรือที่เว็บไซต์www.ktcworld.co.th สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก เคทีซี ทัช ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์http://bit.ly/apply-ktc .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]