กรุงเทพฯ 6 มิ.ย.-บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ร้องทุกข์ต่อ “ดีเอสไอ” และ “ปอศ.” ให้ดำเนินคดีต่อผู้ทุจริต พร้อมติดตามทรัพย์สินจากการทุจริตกลับคืนบริษัท หลังถูกสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)
นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับคณะผู้บริหารของบริษัท สตาร์คคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บริษัทจึงขอเรียนชี้แจง ดังนี้
หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบจากหนังสือของผู้สอบบัญชีรายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์ เฮ้าส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ว่า ผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการ และหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามนัยมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2565 และประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้มีหนังสือแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. ถึงการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีและการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) รายละเอียดปรากฏ ตามสิ่งที่อ้างถึง
1.ต่อมาบริษัทจึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด รวมถึงบริษัทได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) โดยบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท
บริษัทขอเรียนว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการดำเนินการขั้นต้น บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่าจะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีลงโทษได้ตามกฎหมาย ตลอดจนสามารถติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกกระทำโดยทุจริตจากผู้กระทำความผิดคืนกลับให้แก่บริษัทเพื่อเป็นการเยียวยาบรรเทาความเสียหายที่บริษัทได้รับ
อนึ่ง เนื่องจากขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางบริษัทจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยรายละเอียด ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่สำนักงานก.ล.ต. ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป.-สำนักข่าวไทย