ขนส่งฯ เดินหน้าสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม 

นครพนม ฯ 31 พ.ค.-กรมการขนส่งทางบก เผยโครงการก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม คืบหน้าตามแผน ก้าวหน้าแล้ว  13 %  มั่นใจ ช่วยเพิ่มมูลค่า  การค้าชายแดนปัจจุบัน จากปัจจุบันที่ 1 แสนล้านบาท ไปถึง 3 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี เอกชนเด้งรับ มั่นใจสินค้าหลายกลุ่มได้ประโยชน์ ลดระยะเวลาการต้นทุนขนส่งสินค้า


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ว่า  โครงการดังกล่าวดำเนินการในรูปแบบสัญญาร่วมทุน (PPP) ที่มี บริษัทเอสเอซีแอล จำกัด(ผู้ร่วมลงทุน) มีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี  ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการก่อสร้าง มีความคืบหน้าไปกว่า13% ตามกำหนดจะแล้วเสร็จในปี67 และพร้อมเปิดใช้งานได้ในปี 68 มั่นใจว่าเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับปริมาณการขนส่งตู้สินค้าได้กว่า 146,000 ตู้ ทีอียู ต่อปี จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งขนถ่ายสินค้าชายแดน ในภูมิภาคอีสานเหนือเชื่อมต่อไปยังประเทศลาว เวียดนาม และจีนได้ในระยะทางเพียง 700 กม. ซึ่งจะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 1 แสนล้านบาท ไปถึง 3 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี 

นอกจากนี้ พื้นที่ศูนย์ขนส่งชายแดน จังหวัดนครพนมดังกล่าว นอกจากจะเป็นจุดขนส่งขนถ่ายสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา  ทุเรียน ไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ในอนาคตพื้นที่ดังกล่าว ยังมีศักยภาพที่จะเป็นที่ขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์  และสินค้าอีคอมเมิร์ซ จากประเทศจีน มายังประเทศไทยด้วย จากศูนย์กลางผลิตจากเมืองหนานหนิงประเทศจีน มายังนครพนมมีระยะทางไม่เกิน  700 กม. ขณะเดียวกัน พื้นที่นี้จะเชื่อมต่อกับ โครงการ รถไฟทางคู่เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว จะแล้วเสร็จในปี 70 


นายบวรสินธุ์ ตันธุวนิตย์ กรรมการ บริษัท เอสเอซีแอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ที่ได้รับสัมปทานให้เข้ามาดำเนินการในโครงการศูนย์ขนส่งสินค้าชายแดนจังหวัดนครพนม กล่าวว่า เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การขนส่งสินค้าที่ออกไปยังชายแดนจากไทยไปจีน ลดระยะเวลาในการเดินทางของสินค้าเหลือเพียง 3 วัน จากเดิมถ้าขนส่งสินค้าไปทางทะเลผ่านท่าเรือแหลมฉบังจะใช้เวลารวม 7 วันถึงจีน ซึ่งการ ลดระยะเวลาดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการรวมถึงผู้บริโภคและทำให้สินค้าโดยเฉพาะสินค้าที่เน่าเสียง่าย รวมถึงสินค้าที่ต้องการความรวดเร็วรวดเร็วโดยเฉพาะสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ และอิเล็กทรอนิกส์จะถึงปลายทางคือใช้ระยะเวลาสั้น สะดวก รวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อศูนย์ขนส่งสินค้าชายแดนก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5%ต่อปี

นายธนพัต ทีฆธนานนท์  ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนภายหลังสถานการณ์โควิดลดการแพร่ระบาดว่ายอมรับว่าการค้าชายแดนปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวม กว่า 80,000-90,000 ล้านบาท โดยในปี 66 การค้าชายแดนมีอัตราการเติบโต 30%เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว ส่วนอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้าออกจังหวัดนครพนมในปี65 สูงถึง 137% ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มานครพนมจะเดินทางไปยังมุกดาหาร และสกลนคร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่