ฟันท่าข้าว จ.ยโสธร โกงเครื่องชั่งเอาเปรียบชาวนา

นนทบุรี 25 พ.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน สั่งฟันท่าข้าว จ.ยโสธร โกงเครื่องชั่งเอาเปรียบชาวนา พร้อมส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 25 วรรค 1, 26, 75, 75/1, และ มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในให้ความสำคัญในการกำกับดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าสินค้าเกษตร ตามนโยบายของ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเน้นย้ำให้ท่าข้าว และโรงสีต้องรับซื้อข้าวจากชาวนา อย่างเป็นธรรม มาโดยตลอด และได้สั่งการว่าหากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือพฤติกรรมใดใดที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวนา กรมฯ จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด กรมฯ จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบผู้ประกอบการค้าข้าว โรงสี และท่าข้าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องปราบไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบเกษตรกร ชาวนา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นายกัมปนาท ยุทธศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) บูรณาการร่วมกับ สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าตรวจสอบเครื่องชั่งรถบรรทุกของลานรับซื้อข้าวเปลือกแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร จากการตรวจสอบพบว่าลานรับซื้อดังกล่าวมีการดัดแปลงเครื่องชั่งโดยใช้รีโมตคอนโทรลควบคุมน้ำหนัก จึงได้ทำการตรวจพิสูจน์ ทราบว่า สามารถใช้รีโมต โกงน้ำหนักได้ถึง 510 กก. ต่อครั้ง  และยังพบว่ามีการแก้ไขดัดแปลงสปริงเครื่องชั่ง ให้แสดงน้ำหนักน้อยกว่าความเป็นจริง นายตรวจชั่งตวงวัดจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้ใช้หรือมีไว้ใช้เพื่อใช้เครื่องชั่ง ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้อื่น กระทำการด้วยวิธีการใดๆ เพื่อให้ความเที่ยงของเครื่องชั่งผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดตามมาตรา 26 เป็นผู้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดคืออัตราเพื่อเอาเปรียบทางการค้า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 25 วรรค 1, 26, 75, 75/1, และ มาตรา 79  แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 270 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อดำเนินการสอบสวนและคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัด เข้มงวดในการตรวจสอบและออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกษตรกรโดยเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งหากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทุกสาขา หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก