นักวิชาการแนะจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็วหลังการเลือกตั้ง

กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – นักวิชาการแนะเร่งจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจและการลงทุน มุ่งปฏิรูปและปรับโครงสร้างใหม่รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นนโยบายประชานิยมกระทบฐานะทางการคลัง


นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการสถาบันปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลอย่างรวดเร็วหลังการเลือกตั้งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและการลงทุน รัฐบาลเสียงข้างมากในรัฐสภามีความสำคัญต่อการดำเนินการนโยบายสำคัญ ทั้งการปรับโครงสร้างและปฏิรูปเศรษฐกิจ หลังจากได้จัดทำครั้งใหญ่หลังวิกฤตการณ์เศรษฐกิจปี 2540 ขณะนี้ต้องเริ่มมีขีดจำกัด จำเป็นต้องปฏิรูปและปรับโครงสร้างใหม่อีกรอบ รองรับการเติบโตใหม่ในทศวรรษหน้า รัฐบาลใหม่ต้องเอาใจใส่ควบคู่กับนโยบายประชานิยมและนโยบายสวัสดิการสังคม ซึ่งได้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้

ยอมรับว่านโยบายประชานิยมสวัสดิการจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกปีตามโครงสร้างสังคมสูงวัย ตามสภาพ “กับดักประชานิยม” หากไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อขยายฐานรายได้ใหม่ ไทยอาจเผชิญปัญหาวิกฤติฐานะทางการคลังในอนาคต นโยบายและมาตรการบางอย่างที่หาเสียงไว้ อาจสร้างความอ่อนไหวทางการเมือง และความเสี่ยงฐานะทางการคลัง จึงต้องทบทวนให้เหมาะสมตามฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ


นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการสถาบันปรีดี พนมยงค์ เปิดเผยว่า รายย่อย เอสเอ็มอีจำนวนมากอาจไม่ได้สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ จึงต้องออกแบบให้สถาบันการเงินมีแรงจูงใจหรือช่วยให้ครัวเรือนที่มีศักยภาพใช้บริการได้อย่างสะดวก มุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างนวัตกรรมสร้างฐานเติบโตใหม่ หากรัฐบาลใหม่ต้องการพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นกับดักรายได้ระดับปานกลาง โดยอาศัยการเติบโตภาคอุตสาหกรรมเป็นกลไกหลัก รัฐบาลใหม่ต้องเร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมให้มีความสามารถในแข่งขันสูงและมีผลิตภาพสูง มุ่งสนับสนุนการวิจัย พัฒนานวัตกรรม ผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ลดการทุจริตรั่วไหล

ส่วนอุตสาหกรรมที่ไทยมีผลิตภาพต่ำแข่งขันได้น้อย ควรใช้นโยบายเชิงรุก เช่น การให้สินเชื่อสนับสนุน การใช้มาตรการปกป้องอุตสาหกรรมภายใน และใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีหากจำเป็น การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้ง การปรับระบบภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจและความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นผ่านผลิตภาพสูงขึ้น  

นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การถดถอยลงของภาคส่งออกจากการชะลอของเศรษฐกิจโลก รัฐบาลใหม่ต้องหันมาเอาใจใส่อย่างจริงจัง ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น ยอมรับว่าธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีผลิตภาพสูงส่วนใหญ่เป็นโรงงานการผลิตของบรรษัทข้ามชาติ ที่ใช้เทคโนโลยีและทุนจำนวนมาก ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตรวมของไทยขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1.2-1.3 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยไทยยังใช้แรงงานเป็นหลัก เมื่อหลายประเทศก้าวข้ามพ้นกับดักรายได้ระดับปานกลางไปแล้ว เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ ภาครัฐต้องเข้ามามีบทบาทส่งเสริมและพัฒนาระดับความสามารถทางการผลิตของประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับโลก


นายอนุสรณ์ มองว่า การกดค่าแรงไม่ใช่นโยบายถูกต้อง ผู้ใช้แรงงานควรได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนแรกเข้าสูงขึ้น เป็นเพียงนโยบายช่วยบรรเทาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่งเท่านั้น จึงต้องมีมาตรการเชิงรุกมาใช้แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ภาคการผลิตของเศรษฐกิจไทยไม่สามารถอาศัยแรงงานทักษะต่ำ ราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดยกระดับทักษะแรงงานเหล่านี้ ไทยต้องเร่งปฏิบัติต่อแรงงานต่างด้าวให้มีมาตรฐานแสดงความมีศิวิไลซ์ของสังคมไทย

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ สมาชิกภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กล่าวย้ำขอให้พรรคการเมืองรักษาสัญญาประชาคม 8 ข้อที่ให้ไว้กับประชาชน ผ่านองค์กรประชาธิปไตย และภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย พรรคการเมืองกว่า 30 พรรค ได้จัดทำ “สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน” กับองค์กรประชาธิปไตยขึ้น โดยถือประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ และพรรคการเมืองได้ให้คำมั่นว่าพรรคการเมืองที่ลงนามจะปฏิบัติตามสัญญาดังนี้

1) การเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อเมื่อมีเสียงสนับสนุนรวมกันเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับกลุ่มของพรรคการเมืองที่มีเสียงรวมกันไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

2) เมื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะนำนโยบายแต่ละพรรคใช้ในการหาเสียงมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญแก่นโยบายร่วมกัน

3) การร่วมมือกับทุกพรรคการเมืองให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ร่างโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนหรือไม่

4) การสนับสนุนให้กระบวนการพูดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน

5) การดำเนินนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรชุมชนมีอำนาจการตัดสินใจในเรื่องของท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะพิจารณาโอนงาน งบประมาณ และบุคลากรจากราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปสู่ราชการส่วนท้องถิ่นมากขึ้นอย่างเพียงพอ

6) การส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายการดูแลผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ รวมทั้งการสร้างแรงจูงใจในการออม และสนับสนุนให้แรงงานนอกระบบทุกกลุ่ม รวมถึงลูกจ้างส่วนราชการและลูกจ้างทำงานบ้าน เข้าสู่ระบบการประกันสังคมอย่างครอบคลุมและทั่วถึง

7) การกำกับดูแลไม่ให้สมาชิกที่เป็นข้าราชการการเมืองใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบเพื่อให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้เคารพความเป็นกลางของข้าราชการประจำ

8) การสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ให้ผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เป็นผู้นำทางการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้บริหารพรรคการเมืองในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

พรรคการเมืองต่างๆ ที่มาร่วมลงนาม เชื่อว่าการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ในที่นี้จะมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันพรรคการเมือง การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งแก่ระบอบประชาธิปไตยของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]