ปีบัญชี 65 ธ.ก.ส. ปล่อยกู้กว่า 8.7 แสนล้าน

กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – ธ.ก.ส. เผย ปีบัญชี 65 ปล่อยกู้กว่า 8.7 แสนล้าน เดินหน้านำนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างมาตรฐานสากลให้เกษตรกร


นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีบัญชี 2565 (1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) ว่า ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบท 878,338 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อสะสมคงเหลือ จำนวน 1,636,778 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชีจำนวน 30,509 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.90 ยอดเงินฝากสะสม 1,829,549 ล้านบาท มีสินทรัพย์จำนวน 2,262,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.15 หนี้สินรวม 2,109,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.08 และส่วนของเจ้าของ 153,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.15 และมีกำไรสุทธิ จำนวน 7,989 ล้านบาท

ด้านอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) อยู่ที่ร้อยละ 0.36 อัตราตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 5.38 ขณะที่ NPLs อยู่ที่ร้อยละ 7.68 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ร้อยละ 12.63 สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาและลดภาระของเกษตรกร ที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ธ.ก.ส. ได้จัดทำมาตรการในการดูแลด้านหนี้สินและเสริมสภาพคล่องลูกค้า ได้แก่ 1) โครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าจำนวน 3,361,769 ราย 2) โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน 2565 ที่ลดดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าไปแล้วจำนวน 467,965 ราย 3) มาตรการจ่ายดอกตัดต้น แก้หนี้ภาคครัวเรือนให้แก่ลูกค้าไปแล้วจำนวน 119,723 ราย 4) มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลาย ได้ลดดอกเบี้ย แก้หนี้ภาคครัวเรือนให้แก่ลูกค้าไปแล้วจำนวน 214,525 ราย 5) มาตรการทางด่วนลดหนี้ แก้หนี้ภาคครัวเรือนให้แก่ลูกค้าไปแล้วจำนวน 2,692 ราย และ 6) โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืน โดยสามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 82,490 สัญญา จำนวนเงิน 17,722 ล้านบาท


ด้านการดำเนินนโยบายที่มุ่งสู่ความยั่งยืน ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการเข้าไปดูแลชุมชนตามหลัก BCG Model ได้แก่ โครงการแก้หนี้ แก้จนตามหลัก D&MBA โดยดำเนินการไปแล้ว 77 แห่ง ทั่วประเทศ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มและลดต้นทุนการผลิตไปแล้วจำนวน 7,600 ราย โครงการยกระดับธนาคารต้นไม้สู่ชุมชนไม้มีค่า กว่า 404 ชุมชน โครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 150,790 ต้น รวมจำนวนต้นไม้ที่ ธ.ก.ส. สนับสนุนดูแล 12,414,477 ต้น

โครงการการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อพัฒนาศักยภาพกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนที่เป็นผู้ใช้น้ำให้ยกระดับไปสู่ชุมชนผู้ผลิต โดยเติมองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้น้ำบาดาลและระบบกระจายน้ำบาดาล เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการบริหารน้ำบาดาลสำหรับ การทำเกษตรกรรม โดยมีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 1,670 แห่ง ทั่วประเทศ โครงการลดการเผาวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การปลูกข้าวและอ้อยเพื่อลดค่า PM 2.5 สนับสนุนการนำฟางข้าวและใบอ้อยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยลดของเสียจากเศษวัสดุการเกษตรให้เป็นศูนย์ (Zero waste) และเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุการเกษตร

โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าร่วมโครงการ คิดเป็นพื้นที่ทำนารวม 25,850 ไร่ และเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเข้าร่วมโครงการ คิดเป็นพื้นที่ปลูกอ้อย รวม 397,198 ไร่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเพิ่มให้กับเกษตรกรกว่า 420 ล้านบาท จากการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนภาคเกษตรกรรมในการผลิตอาหารปลอดภัย (Food Safety) ผ่านการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ และการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาด รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติผ่านสินเชื่อ Green Credit และสินเชื่อรักษ์ป่าไม้ไทยยั่งยืนอีกด้วย


นายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. ยังทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ผ่านมาตรการและโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ มาตรการรักษาเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตร ผ่านโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โดยโอนเงินส่วนต่างเพื่อชดเชยเป็นรายได้ให้แก่เกษตรกรในกรณีสินค้าราคาตกต่ำ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์จากการรับโอนเข้าบัญชีโดยตรงไปแล้วกว่า 2.6 ล้านราย เป็นจำนวนเงินกว่า 7,863.72 ล้านบาท โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิตและการเก็บเกี่ยวในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.6 ล้านราย เป็นจำนวนเงินกว่า 54,020.70 ล้านบาท

โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยตัดสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 เพื่อบรรเทาปัญหาผลผลิตที่ล้นตลาดทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ และช่วยสนับสนุนรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย โดยโอนเงินส่วนต่างแก่เกษตรกรไปแล้วกว่า 114,890 ราย เป็นเงินกว่า 8,110.96 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 31,747 ราย จำนวนเงินกว่า 22,496.99 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร มีองค์กรและสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 58 แห่ง จำนวนเงินกว่า 4,258.11 ล้านบาท โครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สนับสนุนสินเชื่อไปแล้วกว่า 14.67 ล้านบาท

โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ สนับสนุนสินเชื่อไปแล้วจำนวน 6,308.38 ล้านบาท โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 1,593 ราย เป็นจำนวนเงิน 14,586 ล้านบาท โครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยสนับสนุน ค่าเบี้ยประกันภัยให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 2,852 ล้านบาท และสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติไปแล้วกว่า 13.36 ล้านบาท นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงการคลังในการเป็นหน่วยงาน รับลงทะเบียนของโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยจัดเตรียมอัตรากำลัง เครื่องมืออุปกรณ์และสถานที่ ผ่านการตั้งจุดลงทะเบียนที่สาขา ธ.ก.ส. กว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงประสานหน่วยงานในพื้นที่ เช่น อบต. กำนันและผู้ใหญ่บ้าน กำหนดจุดให้บริการนอกสถานที่ เพื่อลดภาระการเดินทางและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทะเบียนในการเข้าร่วมโครงการพร้อมกับ การลงทะเบียนยืนยันตัวตน (E-KYC) โดยมีผู้มาลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส. ทั้งสิ้นกว่า 6,000,000 คน

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 (คาดการณ์ ณ มีนาคม 2566) จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับการจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนการบริโภคในประเทศให้ขยายตัวได้ดีขึ้น ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐปี 2566 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ นอกจากนี้ ห่วงโซ่อุปทาน การผลิตสามารถกลับมาดำเนินได้ตามปกติ ส่งผลให้ภาคการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

สำหรับเศรษฐกิจเกษตร จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากการส่งออกสินค้าเกษตรที่คาดว่า จะปรับตัวลดลงตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวลดลง อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และสถานการณ์ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังอาจเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง แนวโน้มราคาน้ำมันดิบลดลงกระทบต่อแนวโน้มราคายางพาราและราคาปาล์มน้ำมัน ประกอบกับต้นทุนค่าอาหารสัตว์สูงขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากการขยายตัวของเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มขึ้น (ผู้นำเข้าสินค้าเกษตรอันดับ 1 ของไทย) และนโยบายรัฐมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตร ที่จะเป็นแรงสนับสนุนให้รายได้ในภาคเกษตรยังคงเติบโตได้จากปีก่อน

สำหรับปีบัญชี 2566 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ สร้างวินัยทางการเงินและการออมเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สนับสนุนการแปรรูปและอุตสาหกรรมการเกษตร เน้นการเชื่อมโยงกับเครือข่ายด้านการเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่า ขับเคลื่อนนวัตกรรมการเกษตรไปสู่เกษตรมูลค่าสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนให้กับเกษตรกร

รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์มในการให้บริการแบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการผลิต การเชื่อมโยงห่วงโซ่ธุรกิจภาคการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตและสามารถจำหน่ายสินค้าเกษตร ได้ตรงกับความต้องการตลาดอย่างแท้จริง โดย ธ.ก.ส. วางเป้าหมายสินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 35,000 ล้านบาท เงินฝากเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 12,000 ล้านบาท และ NPLs/Loan อยู่ที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 6.70 ด้านการยกระดับชุมชนสู่ความยั่งยืน ธ.ก.ส. มุ่งเน้นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากภายใต้ BCG Model ได้แก่ การสนับสนุนเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย

การยกระดับการผลิตสู่เกษตรมูลค่าสูง การนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Zero Waste) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนคนรุ่นใหม่ (New Gen) ทายาทเกษตรกร และ Smart Farmer เข้าทดแทนเกษตรกรที่มีอายุมากขึ้น การยกระดับและต่อยอด SMEs วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์การเกษตรสู่การเป็นเกษตรหัวขบวน การสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การจับคู่ธุรกิจ การร่วมลงทุน (Venture Capital) กับบริษัทที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะมาช่วยสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจการเกษตร หรือเป็น หัวขบวนที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาและสร้างเกษตรมูลค่าสูง การสนับสนุนและยกระดับชุมชนที่มีความพร้อมไปสู่ชุมชนอุดมสุขที่มีความมั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายผ่านโครงการ 1 University 1 Community (1U1C) ในการเติมองค์ความรู้ด้านการพัฒนาการเกษตรอย่างต่อเนื่อง

นายไพศาล กล่าวอีกว่า ธ.ก.ส. มุ่งมั่นในดำเนินการตามพันธกิจในการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับความสำเร็จให้กับเกษตรกรสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน โดยก้าวเดินและเติบโตไปพร้อม ๆ กับธนาคาร ดั่งปณิธานของ ธ.ก.ส. ที่มุ่งมั่นในการสร้าง Better Life , Better Community, Better Pride เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกรไทยสู่สังคมที่ภาคภูมิ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]