18 เม.ย. – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์วานนี้ว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 12 เมษายน ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ได้เห็นชอบทุกวาระตามที่ ปตท.เสนอ
โดย ปตท.รายงาน ผลดำเนินการปีที่แล้วมีรายได้ 3.37 ล้านล้านบาท และกำไรสุทธิ 9.12 หมื่นล้านบาท กลุ่ม ปตท.จ่ายเงินเข้ารัฐทั้งรูปแบบภาษีและเงินปันผลกว่า 86,395 ล้านบาท ช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องแก่เศรษฐกิจไทย ที่ประชุมอนุมัติการจัดสรรเงินกําไรสุทธิประจําปี 2565 และการจ่ายเงินปันผล โดยได้จัดสรรกําไรสุทธิเป็นสํารองเพื่อกองทุนประกันวินาศภัย 21 ล้านบาท และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นจํานวนเงิน 57,126 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลครึ่งแรกในอัตราหุ้นละ 1.30 บาท แล้วจะมีเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับครึ่งหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท วงเงิน 19,994 ล้านบาท กําหนดจ่ายเงินปันผล 28 เมษายนนี้ โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปตท.จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 64% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่านโยบายที่กำหนดไว้ 25% ของกำไรสุทธิ
ปตท.แจ้งผู้ถือหุ้นว่า กลุ่ม ปตท. มีการปรับโครงสร้างรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก วางกลยุทธ์ให้เติบโตทางธุรกิจพร้อมกับพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน มุ่งสู่ธุรกิจใหม่เพื่ออนาคตและธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน และช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญ ปตท.จึงปรับโครงสร้างให้ พีทีทีโกลบอลแอลเอ็นจี เป็นหนึ่งในบริษัท แฟลกชิปในการจัดหาและจำหน่ายแอลเอ็นจี ในขณะที่พีทีทีแอลเอ็นจีพัฒนาเทอร์มินอลนำเข้าแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 แล้วเสร็จ สามารถนำเข้าสอดคล้องกับดีมานด์ของประเทศ เพื่อความมั่นงคง และส่งเสริมให้ไทยก้าวสู่ฮับการค้าแอลเอ็นจีในภูมิภาคนี้
ในขณะนี้ ธุรกิจใหม่ หรือนิวโกรธ์ ได้มีการลงทุนทั้งตลอดห่วงโซ่พลังงานสะอาดผ่านบริษัทโกลบอลรีนิวเอเบิลซินเนอร์ยี่ จำกัด ที่มีความคืบหน้า ลงทุนในประเทศอินเดีย กลุ่ม ปตท.ยังมีความร่วมมือพัฒนาอีวีทั้งระบบ รวมไปถึงธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่มีอินโนบิกเป็นแกนนำ และมีการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการจัดตั้งบริษัทโกลบอลมัลติโมดัลโลจิสติกส์ เป็นต้น
ปตท.เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่ เน็ตซีโร่ 2593 และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน เช่น การจัดสรรงบ 3,000 ล้านบาท อุดหนุนกองทุนน้ำมันฯ ร่วมลดต้นทุนค่าไฟฟ้า เอ็นจีวีและแอลพีจีแก่ผู้มีรายได้น้อย ซีอีโอ ปตท.ประเมินว่า ปีนี้ผลดำเนินการยังคงเติบโต เช่น ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายของแหล่งเอราวัณและต่างประเทศ ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าสเปรดจะใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ปีนี้การปิดซ่อมบำรุงโรงงานน้อยกว่า ธุรกิจโรงกลั่นปีนี้จะมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น แต่ค่าการกลั่นอ่อนตัวแต่ได้ผลบวกจากค่าพรีเมียมน้ำมันดิบลดต่ำลง ส่งผลให้ต้นทุนต่ำลง ส่วนธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกของ OR คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ และธุรกิจไฟฟ้าก็มีแนวโน้มดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย
