“บีโอไอ” บุก “จีน” ดึงอีวี-อิเล็กทรอนิกส์

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-บีโอไอ ผนึกกำลัง กนอ. โรดโชว์ดึงการลงทุนจีน รุกเจาะบริษัทเป้าหมาย ยืนยันเดินหน้าลงทุนในอุตสาหกรรมอีวี และอิเล็กทรอนิกส์ เผยจีนยื่นขอส่งเสริมลงทุนไตรมาสแรกกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลการเดินทางโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เมืองธุรกิจสำคัญ ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ หางโจว เซินเจิ้น และกว่างโจว ระหว่างวันที่ 3-7 เมษายน 2566 ว่า บีโอไอพร้อมด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้เดินทางไปจัดสัมมนาใหญ่ที่นครเซี่ยงไฮ้ พร้อมพบกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีน รวมกว่า 10 บริษัท นับเป็นโรดโชว์ประเทศจีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19


ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า คณะไทยได้พบกับผู้ผลิตรายใหญ่ของจีน 5 ราย ได้แก่ Changan Automobile, Geely, BYD, JAC และ Jiangling Motors (JMC) ซึ่งทั้ง JAC และ JMC เป็นผู้ผลิตรถกระบะและรถบรรทุกไฟฟ้าชั้นนำ โดยทุกรายแสดงความสนใจลงทุนผลิต EV ในประเทศไทย และสนับสนุนไทยให้เป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค เนื่องจากมองว่าไทยมีนโยบายเชิงรุกในการส่งเสริม EV แบบครบวงจร มีซัพพลายเชนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับการผลิต EV อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ และตลาดในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวสูง นอกจากนี้ ทุกรายยังให้ความสนใจการขยายมาตรการสนับสนุน EV หรือ EV 3.5 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะมีการลงทุนจากกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ใน 1 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ไม่รวม BYD ซึ่งได้ขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ EV และชิ้นส่วนในไทยแล้ว 6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท

“ผู้ผลิต EV ของจีน ยืนยันมองไทยเป็นเป้าหมายลำดับแรกในภูมิภาค เพราะมีความพร้อมในทุกๆ ด้านสำหรับการสร้างฐานอุตสาหกรรม EV ทั้งผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก อีกทั้งเห็นตัวอย่างการเติบโตของบริษัทจีนรายอื่น ๆ ที่เข้าสู่ตลาดในไทยก่อนหน้านี้ เช่น MG, Great Wall Motor, BYD และ NETA ทำให้เกิดความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้น” นายนฤตม์ กล่าว


กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คณะได้พบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) รายใหญ่ ได้แก่ WUS Printed Circuit (Kunshan) และ ASKPCB ซึ่งทั้งสองบริษัทมีแผนลงทุนในไทยรวมกันกว่า 12,000 ล้านบาท โดยได้หารือเรื่องการนำ supplier ของบริษัท ย้ายตามไปลงทุนในไทยอีกกว่า 200 บริษัท เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตและการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยครั้งนี้ ได้พบกับ Supplier รายสำคัญกว่า 10 บริษัท เช่น Yiyang Jindong Technology, Haoyue New Materials Technology และ Guangdong Dtech รวมทั้งผู้บริหารสมาคมผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ของจีนด้วย

“กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของจีน มีความจำเป็นต้องหาแหล่งผลิตที่ 2 นอกประเทศจีน หรือ China + 1 เพื่อกระจายความเสี่ยงและบริหารต้นทุนการผลิต ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม การมาลงทุนของกลุ่มนี้ จะต้องอาศัย supplier จำนวนมากในการสนับสนุนการผลิต ดังนั้น บีโอไอจะส่งเสริมให้ supplier บางส่วนเข้ามาลงทุนในไทย ควบคู่ไปกับการผลักดันบริษัทไทยที่มีศักยภาพ เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนนี้ ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ซึ่งทางฝ่ายจีนก็ยินดีสนับสนุนด้วย” นายนฤตม์ กล่าว

นอกจากนี้ บีโอไอยังร่วมกับคณะกรรมการพาณิชย์นครเซี่ยงไฮ้ จัดงานสัมมนาใหญ่ “Thailand’s New Investment Promotion Measures: NEW Economy, NEW Opportunities” เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ และศักยภาพของประเทศไทย ทั้งด้านการเป็นฐานการผลิตและสำนักงานภูมิภาค รวมทั้งวีซ่าระยะยาว (Long-term Resident หรือ LTR Visa) เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง


ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 158 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 77,381 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ และดิจิทัล โดยไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค. – มี.ค. 2566) มีโครงการจากจีนยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 38 โครงการ มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ