กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – ธปท. เผยเศรษฐกิจไทย เดือน ก.พ.66 ดีขึ้น ทั้งส่งออก-เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน-ท่องเที่ยวฟื้นตัว ขณะที่เงินเฟ้อลดลงจากผลของฐานสูงในปีก่อน และราคาผักและผลไม้ลดลง คาดเดือน มี.ค.ฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน ก.พ.2566 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ น้ำตาลและน้ำมันปาล์มดิบ ตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ประกอบกับอุปทานของประเทศผู้ส่งออกหลักลดลง และการส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่เพิ่มขึ้นตามรอบการส่งมอบสินค้าของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม การส่งออกบางสินค้าปรับลดลง อาทิ โลหะและเครื่องใช้ไฟฟ้าตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ลดลง สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น
ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดสินค้าคงทนตามยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามคำสั่งซื้อ ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยกดดันการบริโภคในภาพรวม
ส่วนภาคบริการปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนหลังทางการจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์สามารถเดินทางมาไทยได้
และนักท่องเที่ยวอินเดียหลังทางการยกเลิกมาตรการให้ผู้ที่เดินทางจากไทยต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลาง และรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงทั้งในหมวดพลังงานและอาหารสด ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับราคาผัก และผลไม้ที่ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญ ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. เฉลี่ยอ่อนค่าหลังตลาดเพิ่มการคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง
ธปท. คาดว่าเดือนมีนาคม 2566 เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในระยะต่อไป ยังต้องติดตาม แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป, ผลของการเปิดประเทศ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน และการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น และผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย